สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมของคนตาบอดระดับโลก 2 งาน พร้อมกันเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย คือ สมัชชาสหภาพคนตาบอดโลกครั้งที่ 8 และ สมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น WBU-ICEVI 2012 เผย ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จาก 190 ประเทศสมาชิกทั่วโลก ระหว่างวันที่ 8-18 พ.ย.นี้ ณ โรงแรมอิมพิเรียล ควีนสปาร์ค หวังการจัดงานช่วยกระตุ้นความเข้าใจและยกระดับศักยภาพคนตาบอดไทยสู่สากล
นายมณเฑียร บุญตัน นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ ประธานคณะกรรมการการจัดงาน WBU-ICEVI 2012 กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกของประเทศไทย และครั้งแรกของทวีปเอเชีย ว่า จากการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมการเป็นสมาชิกของสหภาพคนตาบอดโลก และ สภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น และเป็นสมาชิกที่มีความเคลื่อนไหวเพื่อการพัฒนาศักยภาพคนตาบอดอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมาโดยตลอด ทำให้กลุ่มประเทศสมาชิกเห็นถึงศักยภาพของคนตาบอดไทย โดยหลังจากเปิดให้มีการนำเสนอผลงานของสมาคมฯ และความพร้อมของสถานที่ในการจัดงาน ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทั้ง 2 งานพร้อมกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
“ในฐานะเจ้าภาพการประชุมนี้ เราได้ประสานงานไปยังเครือข่ายประเทศสมาชิก 190 ประเทศทั่วโลก โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคาดว่า จำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,000 คน สำหรับการเตรียมความพร้อมภายในประเทศ ได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือ โดยเฉพาะ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี คาดว่า จะสามารถต้อนรับกองทัพคนตาบอดผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมสุนัขนำทางจำนวนมากได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลต์มากมายในฐานะเจ้าภาพ เพื่อเปิดโลกคนตาบอดให้เป็นที่รู้จักในสังคมอย่างกว้างขวาง ผ่านการแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของคนตาบอดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การจัดมหกรรมดนตรีคนตาบอดนานาชาติ และการรวมกันของผู้แทนคนตาบอดระดับโลกที่เป็นผู้นำในสาขาอาชีพต่างๆ” ประธานจัดการประชุม กล่าว
ด้าน นางแมรี่แอน ไดมอนด์ ประธานสหภาพคนตาบอดโลก WBU อธิบายถึงความสำคัญของการจัดประชุมร่วมกันในครั้งนี้ ว่า การประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก และ สมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น พร้อมกันเป็นครั้งแรก ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ควรบันทึกในประวัติศาสตร์การจัดงานของคนตาบอดระดับโลก ซึ่งทำให้ประเทศที่เข้าร่วมได้ประโยชน์มหาศาลจากการขับเคลื่อนร่างญัตติว่าด้วยเรื่องต่างๆ เพื่อบรรลุความร่วมมือ ข้อตกลง ในระดับสากล เพื่อส่งมอบต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมได้ชัดเจน
ลอร์ด คอลิน โลว์ ประธานสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ICEVI กล่าวถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในงานเพิ่มเติมด้วยว่า “ปกติแล้ว สมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ICEVI จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานทางวิชาการและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ซึ่งมีอยู่กว่า 285 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น การที่จัดงานพร้อมกันกับสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลกในครั้งนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ใช้เวทีร่วมนี้เป็นศูนย์รวมขององค์ความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยี สังคม และกฎหมายสำคัญไว้ภายในงานเดียวกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจะใช้โอกาสนี้ ประกาศให้สังคมโลกได้รับทราบศักยภาพของเครือข่ายคนพิการทางการเห็นของไทยที่ถือเป็นแกนนำสำคัญในภูมิภาคอาเซียนด้วย”
นางนภา เศรษฐกร เลขาธิการสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ผู้แทนปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก ครั้งที่ 8 ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิทธิของคนพิการมาโดยตลอด ได้กล่าวเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคน ร่วมเป็นกำลังใจให้กับคนตาบอดไทย และมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้
“ในช่วงระหว่างวันที่ 8-18 พฤศจิกายน ศกนี้ ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคน ร่วมต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมและผู้ติดตามจากนานาประเทศให้สมเกียรติ และศักดิ์ศรีของประเทศไทย ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนบุคลากร การประสานความร่วมมือและงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้ให้ในการประชุมครั้งนี้ 13 ล้านบาท กระทรวงเองก็พร้อมยินดีสนับสนุนและส่งเสริมกลไกการประสานงานภายในรัฐบาล เพื่อดูแลประเด็นที่สนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานในภาคส่วนต่างๆ และในระดับต่างๆ ที่อำนวยสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานให้คนพิการอย่างเต็มที่ และเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสภาพแวดล้อม ข้อมูลและการสื่อสาร ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและปราศจากการเลือกปฏิบัติ”
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้สนับสนุน กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีนโยบายที่สนับสนุนด้านการพัฒนาสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการคำนึงถึงระบบสาธารณูปโภคสำหรับคนพิการให้ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด ตั้งแต่ในชุมชน จนถึงระดับชาติ ดังนั้น ความร่วมมือกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมความเข้าใจให้แก่คนทั่วไปในการอยู่ร่วมกันกับคนตาบอดแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้คนในสังคมมีโอกาสแสดงความเอื้ออาทรต่อกัน ขอขอบคุณคณะทำงาน เครือข่ายองค์กรเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ และสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันเผยแพร่การจัดงานนี้ให้ประเทศไทยได้แสดงบทบาทเจ้าบ้านที่ดีด้วย
นายมณเฑียร บุญตัน นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ ประธานคณะกรรมการการจัดงาน WBU-ICEVI 2012 กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกของประเทศไทย และครั้งแรกของทวีปเอเชีย ว่า จากการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมการเป็นสมาชิกของสหภาพคนตาบอดโลก และ สภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น และเป็นสมาชิกที่มีความเคลื่อนไหวเพื่อการพัฒนาศักยภาพคนตาบอดอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมาโดยตลอด ทำให้กลุ่มประเทศสมาชิกเห็นถึงศักยภาพของคนตาบอดไทย โดยหลังจากเปิดให้มีการนำเสนอผลงานของสมาคมฯ และความพร้อมของสถานที่ในการจัดงาน ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทั้ง 2 งานพร้อมกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
“ในฐานะเจ้าภาพการประชุมนี้ เราได้ประสานงานไปยังเครือข่ายประเทศสมาชิก 190 ประเทศทั่วโลก โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคาดว่า จำนวนผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,000 คน สำหรับการเตรียมความพร้อมภายในประเทศ ได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความร่วมมือ โดยเฉพาะ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี คาดว่า จะสามารถต้อนรับกองทัพคนตาบอดผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมสุนัขนำทางจำนวนมากได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นอกจากนี้ เรายังมีไฮไลต์มากมายในฐานะเจ้าภาพ เพื่อเปิดโลกคนตาบอดให้เป็นที่รู้จักในสังคมอย่างกว้างขวาง ผ่านการแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของคนตาบอดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การจัดมหกรรมดนตรีคนตาบอดนานาชาติ และการรวมกันของผู้แทนคนตาบอดระดับโลกที่เป็นผู้นำในสาขาอาชีพต่างๆ” ประธานจัดการประชุม กล่าว
ด้าน นางแมรี่แอน ไดมอนด์ ประธานสหภาพคนตาบอดโลก WBU อธิบายถึงความสำคัญของการจัดประชุมร่วมกันในครั้งนี้ ว่า การประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก และ สมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น พร้อมกันเป็นครั้งแรก ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ควรบันทึกในประวัติศาสตร์การจัดงานของคนตาบอดระดับโลก ซึ่งทำให้ประเทศที่เข้าร่วมได้ประโยชน์มหาศาลจากการขับเคลื่อนร่างญัตติว่าด้วยเรื่องต่างๆ เพื่อบรรลุความร่วมมือ ข้อตกลง ในระดับสากล เพื่อส่งมอบต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรมได้ชัดเจน
ลอร์ด คอลิน โลว์ ประธานสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ICEVI กล่าวถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในงานเพิ่มเติมด้วยว่า “ปกติแล้ว สมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ICEVI จะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานทางวิชาการและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการเห็น ซึ่งมีอยู่กว่า 285 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น การที่จัดงานพร้อมกันกับสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลกในครั้งนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ใช้เวทีร่วมนี้เป็นศูนย์รวมขององค์ความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยี สังคม และกฎหมายสำคัญไว้ภายในงานเดียวกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจะใช้โอกาสนี้ ประกาศให้สังคมโลกได้รับทราบศักยภาพของเครือข่ายคนพิการทางการเห็นของไทยที่ถือเป็นแกนนำสำคัญในภูมิภาคอาเซียนด้วย”
นางนภา เศรษฐกร เลขาธิการสํานักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ผู้แทนปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนการจัดประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก ครั้งที่ 8 ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต และสิทธิของคนพิการมาโดยตลอด ได้กล่าวเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคน ร่วมเป็นกำลังใจให้กับคนตาบอดไทย และมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้
“ในช่วงระหว่างวันที่ 8-18 พฤศจิกายน ศกนี้ ขอเชิญชวนชาวไทยทุกคน ร่วมต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมและผู้ติดตามจากนานาประเทศให้สมเกียรติ และศักดิ์ศรีของประเทศไทย ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนบุคลากร การประสานความร่วมมือและงบประมาณ ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้ให้ในการประชุมครั้งนี้ 13 ล้านบาท กระทรวงเองก็พร้อมยินดีสนับสนุนและส่งเสริมกลไกการประสานงานภายในรัฐบาล เพื่อดูแลประเด็นที่สนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานในภาคส่วนต่างๆ และในระดับต่างๆ ที่อำนวยสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานให้คนพิการอย่างเต็มที่ และเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสภาพแวดล้อม ข้อมูลและการสื่อสาร ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและปราศจากการเลือกปฏิบัติ”
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้สนับสนุน กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีนโยบายที่สนับสนุนด้านการพัฒนาสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการคำนึงถึงระบบสาธารณูปโภคสำหรับคนพิการให้ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด ตั้งแต่ในชุมชน จนถึงระดับชาติ ดังนั้น ความร่วมมือกับสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมความเข้าใจให้แก่คนทั่วไปในการอยู่ร่วมกันกับคนตาบอดแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้คนในสังคมมีโอกาสแสดงความเอื้ออาทรต่อกัน ขอขอบคุณคณะทำงาน เครือข่ายองค์กรเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ และสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันเผยแพร่การจัดงานนี้ให้ประเทศไทยได้แสดงบทบาทเจ้าบ้านที่ดีด้วย