โดย...สุกัญญา แสงงาม
“เคยเห็นทีวีเสนอข่าวกิจกรรมเล่นดนตรีภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อให้คนป่วย ญาติผู้ป่วย ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน แถมยังผ่อนคลายความเครียดระหว่างนั่งรอคิวเรียกชื่อเข้าพบแพทย์ตรวจอาการ” นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ สุนันทา พุ่มพูน หัวหน้ากลุ่มชุมชนหมู่บ้านแหลมทอง จ.ชลบุรี อยากร่วมทำกิจกรรมดีๆ เช่นนี้บ้าง
สุนันทา บอกว่า แม้จะไม่มีความรู้เรื่องดนตรี แต่มีความเชี่ยวชาญประดิษฐ์ดอกไม้ คิดว่า น่าจะนำความรู้นี้ไปถ่ายทอดให้คนกลุ่มนี้ พอคิดปุ๊บก็ตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเสนอไอเดียสอนทำดอกไม้ โดยสอนสัปดาห์ละวัน ทางโรงพยาบาลให้การตอบรับทันที โดยจะเริ่มสอนหลังปีใหม่เป็นต้นไป ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุอุปกรณ์ ตั้งใจจะขอให้เอสโซ่สนับสนุนส่วนหนึ่ง และอาจให้จ่ายเอง 10-20 บาท เขาจะได้ตั้งใจทำ เพราะรู้สึกว่าเสียเงินไปแล้ว ส่วนผู้ที่สนใจอยากเรียนขอให้รวมกลุ่ม 15-20 คน เธอยินดีเป็นวิทยากร
เหตุผลหนึ่งที่อยากถ่ายทอดวิชาประดิษฐ์ดอกไม้ให้คนอื่นโดยไม่มีกั๊กความรู้ เผื่อเขาจะนำไปต่อยอดพัฒนาฝีมือสร้างรายได้เสริม หรือประดิษฐ์ให้เพลิดเพลิน เพราะบางครั้งการเฝ้าคนป่วยเวลาอยู่บ้านนานๆ อาจเบื่อ ถ้ามีอะไรทำจะได้มีรู้สึกเบื่อหรือเครียด
สำหรับเธอมีความรู้เหล่านี้ เริ่มต้นมาจากโครงการเอสโซ่พัฒนา เชิญวิทยากรมาสอนทำดอกไม้จันทน์ พวงหรีด แล้วพาไปโชว์ตามงานต่างๆ คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ เพราะไม่ใช่ไม้มงคล แม้ว่าเราจะเรียกให้เพราะหูว่า “ดอกไม้สวรรค์” จากนั้นจึงเปลี่ยนมาประดิษฐ์ดอกไม้หลากหลายรูปแบบ ตามคำแนะนำของวิทยากร ประกอบกับสนใจเป็นการส่วนตัว จึงต่อยอดโดยซื้อหนังสือที่สอนวิธีประดิษฐ์ดอกไม้ รวมทั้งค้นจากอินเทอร์เน็ต แล้วค่อยฝึกปรือฝีมือจนเกิดความเชี่ยวชาญจนได้รับการยอมรับ เวลาที่หน่วยงานรัฐและเอกชน ต้องการดอกไม้ จะมาอุดหนุนอย่างสม่ำเสมอ
ด้าน สมจิตร จั่นบ้านโขด หัวหน้ากลุ่มชุมชนซากยายจีน แจกแจงให้ฟังว่า เปิดเทอมหน้าจะเป็นครูสอนพิเศษ ตระเวนสอนจักรสานตะกร้าพลาสติกให้แก่นักเรียนหลายแห่ง เผื่อเด็กเติบโตอาจมีไอเดียใหม่เกี่ยวกับจักรสาน อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการประกอบอาชีพ
เมื่อก่อนป้าก็ไม่มีความรู้จักสาน ป้าขายโชวห่วยอยู่ที่บ้านและมีหอพักเล็กๆ จู่ๆ วันหนึ่งเอสโซ่ เชิญวิทยากรมาสอน มีเพื่อนในชุมชนชวนไปเรียน ตอนนั้นว่างๆ เลยไปเรียน พอเรียนแล้วรู้สึกสนุก จึงฝึกทำอย่างต่อเนื่องจนคล่อง และช่วงที่ชลบุรี งานโอทอป เขามีการร้านก็ไปเดินดูกระเป๋าจักสานแล้วจำๆ แบบมาลองทำดู กระทั่งทำได้หลายแบบ นำมาวางขายที่ร้าน มีลูกค้าชาวไทยและต่างชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาอุดหนุน โดยมีหลายแบบและจำหน่ายในราคากันเอง
ขณะที่ มงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการและผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่ บอกว่า ปีที่ผ่านมาได้ตั้งศูนย์ฝึกอบรมอาชีพสตรีขึ้น ณ วัดแหลมฉบัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านอาชีพ และเป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในโครงการไปพร้อมกัน หวังให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนพนักงานและครอบครัวชาวเอสโซ่ ที่มีจิตอาสาหลายรายแปลงกายเป็นครูสอนสอนภาษาอังกฤษให้แก่โรงเรียนรอบโรงกลั่นด้วย
“ที่ฝึกทักษะอาชีพให้กลุ่มแม่บ้าน ตอนแรกหวังแค่ให้สตรีกลุ่มนี้มีรายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว หรือเป็นค่ากับข้าว ไม่คิดมาก่อนว่าจะไปไกล มีการขยายผลเพื่อสังคม คือ ผมเพิ่งรู้ว่ากลุ่มแม่บ้านมีแผนไปสอนทำดอกไม้ประดิษฐ์ให้ผู้ป่วยและญาติคลายเครียดระหว่างรอพบแพทย์ หรือเป็นครูพิเศษสอนจักสาน พอรู้ว่ากลุ่มแม่บ้านต่อยอดทักษะอาชีพเพื่อสังคม ทาง เอสโซ่ ยินดีให้การสนับสนุนด้านวัสดุ อุปกรณ์และอื่นๆ ขอให้กลุ่มแม่บ้านแจ้งมาว่าต้องการอะไรบ้าง” มงคลนิมิตร กล่าว