ปี 55 สปสช.จัดงบ 365 ล้านบาท สนับสนุนบริการแพทย์แผนไทยทั่วประเทศ เน้นการนวด ประคบ อบ ฟื้นฟูสุขภาพมารดาหลังคลอด และส่งเสริมใช้ยาสมุนไพรพร้อมนำร่องจับมือกรมพัฒนาแพทย์แผนไทยฯ เปิดคลินิกแพทย์แผนไทยในศูนย์ราชการ หนุนงบ 2 ล้านบาทใน 3 ปี
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล กรุงเทพมหานคร มีพิธีลงนามระหว่าง นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการสปสช. เพื่อความร่วมมือการจัดหน่วยบริการแพทย์แผนไทยในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นั้นโดยมีเป้าหมายให้การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมและป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทย เพื่อบริการข้าราชการและประชาชนในศูนย์ราชการและพื้นที่ใกล้เคียง
นพ.วีระวัฒน์ กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากำหนดให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองค่าบริการทางการแพทย์แผนไทย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งบริการแพทย์แผนไทยที่ได้รับความคุ้มครอง คือ การตรวจและการวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเริ่มมีมติให้จัดเป็นงบเฉพาะซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2550 เป็นปีแรก ในอัตรา 0.50 บาทต่อประชากร และในปีงบประมาณ 2555 นั้น ได้รับงบประมาณ 7.57 บาทต่อประชากร ซึ่งได้รับเพิ่มมากขึ้น เป็นจำนวนรวม 365 ล้านบาท เน้นบริการนวด ประคบ อบ ฟื้นฟูสุขภาพมารดาหลังคลอด ส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร สนับสนุนและส่งเสริมระบบบริการแพทย์แผนไทย เพื่อส่งเสริมบริการนวดไทย
อย่างไรก็ตาม การให้บริการยังเน้นในเรื่องการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือผู้พิการที่บ้าน โดยจัดสรรให้หน่วยบริการภายหลังให้บริการผู้ป่วย และลงข้อมูลผ่านโปรแกรมแพทย์แผนไทยของสปสช.แล้ว รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอื่นๆ ในการพัฒนานำร่องระบบการบริหารและการบริการแพทย์แผนไทย ซึ่งการลงนามร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพื่อจัดบริการแพทย์แผนไทยในอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดบริการให้กับกลุ่มเป้ามาย โดย สปสช.จะร่วมจัดสรรงบประมาณ 2 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการภายใน 3 ปี เพื่อส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ. สุพรรณ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ และ สปสช.จะร่วมมือกันจัดตั้งหน่วยบริการการแพทย์แผนไทย ในพื้นที่อาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเป็นสถานพยาบาลสำหรับการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมและป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทย เพื่อบริการข้าราชการและประชาชนในศูนย์ราชการและพื้นที่ใกล้เคียง โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะดำเนินการจัดตั้งหน่วยบริการและจัดให้มีบริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จ่ายยาสมุนไพร การนวดไทยเพื่อรักษาและฟื้นฟู การนวดไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพ การอบและประคบสมุนไพร การดูแลมารดาหลังคลอด โดยผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย/ไทยประยุกต์ การออกใบรับรองการรักษา เพื่อประกอบการเบิกจ่าย นอกจากงานบริการดังกล่าวแล้วยังดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงระบบบริการให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล กรุงเทพมหานคร มีพิธีลงนามระหว่าง นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และนพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ รองเลขาธิการสปสช. เพื่อความร่วมมือการจัดหน่วยบริการแพทย์แผนไทยในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นั้นโดยมีเป้าหมายให้การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมและป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทย เพื่อบริการข้าราชการและประชาชนในศูนย์ราชการและพื้นที่ใกล้เคียง
นพ.วีระวัฒน์ กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากำหนดให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองค่าบริการทางการแพทย์แผนไทย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งบริการแพทย์แผนไทยที่ได้รับความคุ้มครอง คือ การตรวจและการวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเริ่มมีมติให้จัดเป็นงบเฉพาะซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2550 เป็นปีแรก ในอัตรา 0.50 บาทต่อประชากร และในปีงบประมาณ 2555 นั้น ได้รับงบประมาณ 7.57 บาทต่อประชากร ซึ่งได้รับเพิ่มมากขึ้น เป็นจำนวนรวม 365 ล้านบาท เน้นบริการนวด ประคบ อบ ฟื้นฟูสุขภาพมารดาหลังคลอด ส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร สนับสนุนและส่งเสริมระบบบริการแพทย์แผนไทย เพื่อส่งเสริมบริการนวดไทย
อย่างไรก็ตาม การให้บริการยังเน้นในเรื่องการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือผู้พิการที่บ้าน โดยจัดสรรให้หน่วยบริการภายหลังให้บริการผู้ป่วย และลงข้อมูลผ่านโปรแกรมแพทย์แผนไทยของสปสช.แล้ว รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอื่นๆ ในการพัฒนานำร่องระบบการบริหารและการบริการแพทย์แผนไทย ซึ่งการลงนามร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเพื่อจัดบริการแพทย์แผนไทยในอาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดบริการให้กับกลุ่มเป้ามาย โดย สปสช.จะร่วมจัดสรรงบประมาณ 2 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการภายใน 3 ปี เพื่อส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ. สุพรรณ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ และ สปสช.จะร่วมมือกันจัดตั้งหน่วยบริการการแพทย์แผนไทย ในพื้นที่อาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเป็นสถานพยาบาลสำหรับการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมและป้องกันโรคด้วยการแพทย์แผนไทย เพื่อบริการข้าราชการและประชาชนในศูนย์ราชการและพื้นที่ใกล้เคียง โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะดำเนินการจัดตั้งหน่วยบริการและจัดให้มีบริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย จ่ายยาสมุนไพร การนวดไทยเพื่อรักษาและฟื้นฟู การนวดไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพ การอบและประคบสมุนไพร การดูแลมารดาหลังคลอด โดยผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย/ไทยประยุกต์ การออกใบรับรองการรักษา เพื่อประกอบการเบิกจ่าย นอกจากงานบริการดังกล่าวแล้วยังดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงระบบบริการให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ