“บุญรื่น” เผย ร.ร.เอกชน ร้องผ่านศูนย์สร้างขวัญฯ วอน ศธ.เยียวยา หลังต้องเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่อง เพราะไปกู้เงินซ่อม ร.ร.ที่เสียหาย เพราะน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 16.5 ขณะที่ สช.เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจเร่งสรุปความเสียหายรายงาน รมว.ศึกษาฯ พร้อมแนะ ร.ร.เอกชนที่ต้องการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำยื่นขอกู้ผ่านกองทุนส่งเสริม ร.ร.เอกชนในระบบได้
นางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งสังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในจังหวัดปทุมธานีที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ได้ยื่นเรื่องผ่านทางศูนย์สร้างขวัญและกำลังใจครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ตนเป็นผู้ดูแล โดยแจ้งว่าอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าไปช่วยเยียวยาช่วยเหลือ เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นทำให้โรงเรียนดังกล่าวได้ไปกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 16.5 ลอยตัว ถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากโดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แต่โรงเรียนมีความจำเป็นต้องกู้เพื่อนำเงินมาเร่งซ่อมแซมโรงเรียนให้กลับมามีสภาพปกติ เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเก็บค่าเทอมกับผู้ปกครองได้ เพราะประสบภัยน้ำท่วมเช่นเดียวกันส่งผลให้ขณะนี้นอกจากค่าใช้จ่ายในการจัดการเรียนการสอน ค่าจ้างครูประจำ และครูต่างประเทศแล้วโรงเรียนดังกล่าวยังต้องแบกรับภาระหนี้จากการกู้เงินซ่อมแซมโรงเรียนด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และคณะที่ปรึกษาลงไปสำรวจพื้นที่ของโรงเรียนเอกชนดังกล่าว รวมถึงโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ด้วย
ด้าน นายชาญวิทย์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดเร่งตรวจสอบโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและให้แจ้งข้อมูลความเสียหายของโรงเรียนเพื่อหาทางเยียวยาเป็นการเร่งด่วน โดยจะนำข้อมูลความเสียหายเสนอต่อ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ในการขอสนับสนุนเงินงบประมาณต่อไป สำหรับกรณีที่โรงเรียนต้องการกู้ยืมเงินดอกเบี้ยต่ำ สามารถยื่นขอกู้ในส่วนของกองทุนส่งเสริมโรงเรียนเอกชนในระบบของ สช. ซึ่งให้กู้ดอกเบี้ยร้อยละ 4 และส่งคืนเงินงวดปีละ 2 ครั้ง เท่านั้น เพื่อให้โรงเรียนได้เกิดสภาพคล่องและสามารถดำเนินกิจการด้านการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ