เด็กนักเรียนวอนผู้ใจบุญสมทบทุนฟื้นฟูเยียวยา ช่วยโรงเรียนประเทืองทิพย์ เขตสายไหม หลังแปรสภาพเป็นศูนย์พักพิง ขณะที่ภาคประชาชนตั้งกองผ้าป่า หวังเร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด เชิญจิตศรัทธาร่วมบริจาค
วันนี้ ( 15 ธ.ค.) น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ทางมูลนิธิ ร่วมกับเครือข่ายครอบครัว และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา เขตสายไหม ในช่วงที่น้ำท่วมสูง ซึ่งเมื่อหลังจากน้ำลดลง ทำให้พบปัญหาที่ตามมาและความเสียหายที่เกิดขึ้น คาดว่า ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท เพราะอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เช่น เก้าอี้ โต๊ะเรียน หนังสือเรียน เอกสารสำคัญต่างๆ และรถโรงเรียน เฟอร์นิเจอร์ อาคารเรียน เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ทางโรงเรียนต้องเร่งฟื้นฟูสภาพเพื่อให้ทันต่อการเปิดภาคเรียน ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่ผู้บริหารโรงเรียนต้องใช้เงินทุนส่วนตัวในการดูแลผู้ที่เข้ามาพักพิงที่นี่อีก นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของขยะที่ลอยมากับน้ำ เพราะโรงเรียนแห่งนี้เป็นพื้นที่แอ่งกระทะ พื้นที่ด้านหลังโรงเรียนยังมีน้ำท่วมขัง ดังนั้น สิ่งที่ผู้ใจบุญทุกท่านจะร่วมกันทำได้ คือ การเยียวยา ฟื้นฟู ซ่อมแซม แต่ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด อาจทำให้ผู้มีจิตใจศรัทธา ไม่สามารถเดินทางมาช่วยด้วยแรงกายได้ และเพื่อให้สะดวกกับผู้ที่จะร่วมส่งเสริมความเข้มแข็งทางการศึกษา ทางมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จึงร่วมกับสมาคมครูผู้ปกครองโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา เปิดบัญชี “ผ้าป่ากัลยาณมิตร เพื่อประเทืองทิพย์วิทยา” เลขบัญชี 134-7-32813-8 ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานใหม่ ดอนเมือง โดยให้ผู้ใจบุญร่วมเป็นส่วนหนึ่งสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือทางโรงเรียนแห่ง โดยจะมีการทอดผ้าป่าในวันที่ 25 ม.ค.2555 นี้
นางเกณิกา พงษ์วิรัช ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครอง ร.ร.ประเทืองทิพย์วิทยา กล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้แม้จะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่ค่าเทอมไม่ได้แพงเท่ากับโรงเรียนเอกชนทั่วไป เพราะอาจารย์สารี สุพรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นว่าผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ ฐานะค่อนข้างลำบาก จึงไม่มีกำลังในการแบกรับภาระค่าเทอมที่แพงมากได้ ที่นี่จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้คนในย่านนี้ นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมา ผอ.ได้เตรียมซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อหนีน้ำขึ้นไปอยู่เชียงใหม่เอาไว้แล้ว แต่เมื่อมีชาวบ้านและผู้ปกครองนักเรียนหลายคนได้รับความเดือดร้อนขอเข้ามาพักอาศัยในโรงเรียน จึงเปลี่ยนใจไม่ไปเชียงใหม่ และตัดสินใจเปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยใช้ “งบประมาณส่วนตัว” ในการดูแลชาวบ้านเหล่านั้น ทั้งที่อาศัยกินอยู่หลับนอนภายในศูนย์กว่า 300 คน และชาวบ้านในพื้นที่ข้างเคียงที่มารอรับอาหารในช่วงเย็นของทุกวันอีกกว่า 900 คน แม้ที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาแจกถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภคให้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ขณะนี้น้ำได้แห้งไปหมดแล้ว เหลือไว้แต่ความเสียหายของอาคารสถานที่ อุปกรณ์ รวมทั้งสื่อการเรียนการสอนต่างๆ เราจึงรวมตัวกันเพื่อให้ความช่วยเหลือโรงเรียน แม้ทางโรงเรียนจะมิได้ร้องขอใดๆ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่ตั้งใจเสียสละทำความดีเพื่อคนอื่น อย่างอาจารย์สารี ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และต้องแบกรับภาระแต่เพียงผู้เดียว
ขณะที่ น.ส. ธัญญรัตน์ หลอดโสภา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยา กล่าวว่า ช่วงแรกๆ ตนและเพื่อนได้มาช่วยทาง ผอ.ทำอาหารไปช่วยเหลือศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ดอนเมือง แต่พอเราเจอน้ำท่วมตนเป็นคนที่ขอร้องให้ทางโรงเรียนเปิดเป็นศูนย์อพยพขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในระแวกนั้น เพราะเห็นว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่อยากทิ้งบ้านอพยพไปอยู่ที่อื่น โดยทางโรงเรียนก็ให้การช่วยเหลือและดูแลอย่างเต็มที่ เราได้เห็น ผอ.ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 นั่งเรือไปต่อรถเพื่อซื้อหาอาหารและสิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพของผู้คนจำนวนมาก กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน เป็นแบบนี้ทุกวันตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมจนกระทั่งน้ำลดลง ตนเองและชาวบ้านทุกคนจึงรู้สึกซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจและเสียสละของท่าน ผอ.เป็นอย่างมาก หลังจากน้ำลดลงจึงช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน และช่วยกันซ่อมแซมในส่วนที่พอจะทำได้ อย่างไรก็ตาม จากสภาพความเสียหาย พบว่า ทางโรงเรียนยังต้องการความช่วยเหลือในการฟื้นฟูโรงเรียนอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญทุกท่านร่วมกันบริจาคเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อสมทบทุนเยียวยาโรงเรียนของเราให้สามารถเปิดดำเนินการเรียนการสอนได้ต่อไป
