“สุรพงษ์” เผย ร.ร.ในปทุมธานี เปิดเทอมวันที่ 6 ธ.ค.ได้เพียง 74 โรง จากโรงเรียนทั้งหมด 194 โรง ชี้ ร.ร.ระดับประถมได้รับผลกระทบมากสุดเพราะส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชั้นในที่ระดับน้ำยังท่วมสูง ขณะที่ เขตพื้นที่ฯ เตรียมแผนสำรองจัดหาศูนย์กลางให้นักเรียนมาเรียน เช่น ศาลาวัด เป็นต้น
นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบดูแลว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมนั้นในภาพรวมบริเวณถนนใหญ่น้ำแห้งในหลายจุดสามารถเดินทางสัญจรได้ แต่ที่ยังมีปัญหาคือจุดที่อยู่ตามตรอก ซอกซอยต่างๆ และพื้นที่ด้านในยังเผชิญกับปัญหาระดับน้ำยังค่อนข้างสูงเนื่องจาก จ.ปทุมธานีพื้นที่ต่ำทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมวงกว้าง โดยที่ผ่านมาตนได้ติดตามให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่รับชอบตลอดทั้งการประสานให้การช่วยเหลือ จัดส่งถุงยังชีพ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ติดตามการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาที่จะเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ผ่านทางผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เขต 1, 2 และผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ด้วย
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในจ.ปทุมธานีนั้นมีทั้งสิ้น 194 โรง แบ่งเป็นสังกัด สพป.1 จำนวน 103 โรง สพป.2 จำนวน 70 โรง และ สพม. 21 โรง โดยได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนที่พร้อมเปิดภาคเรียนในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ จำนวน 74 โรง แบ่งเป็น สพป.1-2 จำนวน 65 โรง และสพม. 9 โรง สำหรับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ในส่วนของ สพป.1-2 ประมาณการความเสียหายอยู่ที่ 300-500 ล้านบาท ขณะที่ สพม.ประมาณการอยู่ที่ 60 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เสียหายในส่วนของอาคารเรียน โต๊ะเก้าอี้ คอมพิวเตอร์ ครุภัณฑ์บางรายการ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ผอ.สพป.และ สพม.สรุปรายงานมายัง ศธ.
“โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบมากจะเป็นโรงเรียนสังกัด สพป.เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่พื้นที่ด้านในของจ.ปทุมธานี และมีจำนวนโรงเรียนมาก ส่วนโรงเรียนมัธยมก็ได้รับผลกระทบ เช่น โรงเรียนหอวังนนทบุรี ก็ยังมีน้ำท่วมเปิดเรียนไม่ได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ทาง สพป.และ สพม.มีการเตรียมแผนการรองรับไว้ โดยจะหาพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางและรวบรวมนักเรียนมาเรียน เช่น อาจจะใช้ศาลาวัด เป็นที่จัดการเรียนการสอนชั่วคราว” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว