สบส.จับมือขนส่ง เปิดสายด่วน 02-193-7999 รับแจ้งเหตุได้รับความเดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัย รวมถึงการรักษาพยาบาลไม่เป็นธรรม นำร่องหมอชิต คาดบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน ได้
วันนี้ (21 ต.ค.) พญ.ประนอม คำเที่ยง รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นประธาน เปิดป้ายให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ หรือ สบส.Call-center หมายเลข 02-193-7999 เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัย ณ อาคารผู้โดยสาร สถานีขนส่งสายเหนือ เขตจตุจักร กทม.
พญ.ประนอม กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องประสบกับเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สิน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน” เพื่อติดตามประสานการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน และให้บริการเรื่ององค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพในภาวะน้ำท่วม ทั้งก่อนน้ำท่วมและหลังน้ำลด ทั้งได้จัดส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบและซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลที่ประสบอุทกภัย การเปิดให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ สบส. Call-center 02-193-7999 จึงเป็นอีกช่องทางในการให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ได้โทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือ แจ้งเหตุต่าง ๆ อันจะทำให้ความช่วยเหลือและการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นไปอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ สบส.Call-center เป็นการเปิดให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับแจ้งเบาะแสการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ผิดกฎหมาย การเปิดสถานบริการเพื่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีบริการทางเพศแอบแฝง การไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการจากสถานพยาบาลภาคเอกชน เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน และการสอบถามข้อมูลการบริการต่างๆ ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เช่น การขออนุญาตประกอบกิจการและเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล การขอหนังสือรับรองเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การขอรับรองมาตรฐานสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพระดับสากล ความก้าวหน้าของการดำเนินการตามนโยบายเมดิคัล ฮับ การสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ คุณสมบัติ และสวัสดิการของอาสาสมัครสาธารณสุข เป็นต้นหรือ ซึ่ง สบส.Call-center หมายเลข 02 193 7999 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
วันนี้ (21 ต.ค.) พญ.ประนอม คำเที่ยง รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นประธาน เปิดป้ายให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ หรือ สบส.Call-center หมายเลข 02-193-7999 เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือจากเหตุอุทกภัย ณ อาคารผู้โดยสาร สถานีขนส่งสายเหนือ เขตจตุจักร กทม.
พญ.ประนอม กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องประสบกับเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์สิน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน” เพื่อติดตามประสานการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน และให้บริการเรื่ององค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพในภาวะน้ำท่วม ทั้งก่อนน้ำท่วมและหลังน้ำลด ทั้งได้จัดส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบและซ่อมแซมเครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลที่ประสบอุทกภัย การเปิดให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ สบส. Call-center 02-193-7999 จึงเป็นอีกช่องทางในการให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ได้โทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือ แจ้งเหตุต่าง ๆ อันจะทำให้ความช่วยเหลือและการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นไปอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ สบส.Call-center เป็นการเปิดให้บริการสายด่วนระบบบริการสุขภาพ รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับแจ้งเบาะแสการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ผิดกฎหมาย การเปิดสถานบริการเพื่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีบริการทางเพศแอบแฝง การไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้บริการจากสถานพยาบาลภาคเอกชน เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน และการสอบถามข้อมูลการบริการต่างๆ ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เช่น การขออนุญาตประกอบกิจการและเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล การขอหนังสือรับรองเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การขอรับรองมาตรฐานสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพระดับสากล ความก้าวหน้าของการดำเนินการตามนโยบายเมดิคัล ฮับ การสอบเทียบเครื่องมือแพทย์ คุณสมบัติ และสวัสดิการของอาสาสมัครสาธารณสุข เป็นต้นหรือ ซึ่ง สบส.Call-center หมายเลข 02 193 7999 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
