ทปอ.ยันเดินหน้าเลื่อนเปิดภาคเรียน “ประสาท” รับทำไม่ทันปีการศึกษา 55 แต่จะใช้เวลานี้ทำการศึกษาข้อมูลทั้งวัฒนธรรม ความเชื่อของคนไทยว่าการเลื่อนจะกระทบหรือไม่ เล็งเชื่อมโยง มรภ. มทร. และม.เอกชนใช้แนวทางเดียวกัน และจะประสานถามความเห็น สพฐ. และ สอศ.
วันนี้ (15 ต.ค.) ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุม ทปอ.ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ว่า ที่ประชุม ทปอ.มีมติให้มหาวิทยาลัยสมาชิกทั้ง 27 แห่งไปหารือกันภายในประชาคมในมหาวิทยาลัยเพื่อหาคำตอบในเรื่องการเลื่อนเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยออกไปเป็นเดือนกันยายน จากปัจจุบันที่จะเปิดภาคเรียนในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับการเปิดภาคเรียนของประเทศสากล ที่ส่วนใหญ่ประเทศต่างๆ แม้แต่ประเทศกลุ่มอาเซียนก็ได้กำหนดเวลาเปิดภาคเรียนที่เดือนกันยายน ยกเว้นประเทศไทย พม่า และฟิลิปปินส์ ที่ยังมีกำหนดเปิดภาคเรียนไม่ตรงกับสากล
ดังนั้น ในการประชุม ทปอ.เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทปอ.ได้นำเรื่องนี้ขึ้นมาหารือและได้มอบให้อธิการบดีนำเรื่องนี้ไปหารือร่วมกับสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ซึ่งทราบว่ามีมหาวิทยาลัยหลายแห่งเห็นด้วยกับแนวคิดการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียน และบางแห่งได้เตรียมแผนเลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไปเดือนกันยายน โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป อาทิ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
ศ.ดร.ประสาท กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้มีการหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุม ทปอ.อีกครั้ง ซึ่งที่ประชุมต้องการให้มีการศึกษาอย่างละเอียดว่า ความเชื่อและวิถีชีวิตในสังคมไทยนั้นจะได้รับผลกระทบหรือไม่ หากมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนในระดับอุดมศึกษา ในส่วนของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้น ทปอ.ต้องการให้อธิการบดีไปคุยกับคณะบดีแต่ละคณะ คุยกับนักศึกษา เผื่อจะได้คำตอบที่นอกเหนือความคาดหมายว่า การเลื่อนเปิดภาคเรียนเกิดผลกระทบในเรื่องที่ไม่ได้ทันคิด ทั้งนี้ ทปอ.จะนำเรื่องนี้กลับมาตัดสินใจในการประชุมวันที่ 3 ธ.ค.และประกาศเป็นจุดยืนชัดเจน
“แน่นอนว่า ในปีการศึกษา 2555 จะยังไม่มีการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนแน่นอน ขณะเดียวกันที่ประชุมได้คุยกันด้วยว่า หากจะมีการเลื่อนเปิดภาคเรียนจริงควรจะเชื่อมต่อกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) และมหาวิทยาลัยเอกชน ด้วย นอกจากนั้น จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ด้วยว่าการเลื่อนเปิดภาคเรียนจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ และในอนาคตควรจะมีการจัดระบบการศึกษาให้อยู่บนทิศทางเดียวกัน” ประธาน ทปอ.กล่าว
อนึ่ง ปัจจุบันสถานศึกษามีกำหนด เปิด-ปิด ภาคเรียนที่ 1 ในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม และภาคเรียนที่ 2 เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ขณะที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมีกำหนดเปิด-ปิด นั่นคือ ภาคเรียนที่ 1 จะเปิดปิดในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม และภาคเรียนที่ 2 เดือนมกราคม-พฤษภาคม