วธ.น้ำทะลักวัดไชยฯ หวั่นขังนาน 7 วัน ทำให้โครงสร้างฐานเจดีย์ทรุด คาด ใช้งบบูรณะ 200 ล.
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถาน ใน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ว่า ตรวจสอบพบว่าโบราณสถานเขตเกาะเมือง ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนาราม เพราะกระแสน้ำไหลแรงทำให้แนวกำแพงที่กั้นน้ำด้านข้างวัดขาดยาวกว่า 60 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมโบราณสถานทั้งหมด เบื้องต้นจังหวัดจัดกระสอบทราย 30,000 กระสอบ ทำเป็นกำแพงกั้นน้ำตามแนวถนนรอบโบราณสถาน จากนั้นจะเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่โบราณสถาน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ให้โบราณสถานแช่น้ำนานๆ โครงสร้างโบราณสถานที่ทำด้วยอิฐ มีอายุยาวนานจะส่งผลให้ฐานรากของโบราณสถานต่างๆ ทรุดและพังทลายได้ อย่างไรก็ตามมอบหมายให้กรมศิลปากรสรุปความเสียหายหลังน้ำลดเสนอของบประมาณบูรณะซ่อมแซมต่อไป
ขณะที่ นางโสมสุดา กล่าวว่า โบราณวัดไชยวัฒนาราม ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะกระแสน้ำแรง จึงเป็นห่วงว่าฐานเจดีย์องค์ต่างๆ รวมถึงซุ้มประตู ที่มีขนาดเล็กอาจหลุดพังไปกับกระแสน้ำ อย่างไรก็ตาม หากโบราณสถานต่างๆ แช่น้ำ 2-3 วัน ตัวโครงสร้างอาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากนานเกิน 7 วัน จะทำให้ตัวโครงสร้างโบราณสถานเปื่อยยุ่ย และทรุดลงได้ อย่างไรก็ตาม จะให้วิศวกรและนักโบราณคดีเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างโบราณสถานทั้งหมด โดยนำแผนบูรณะปี 2539 มาเปรียบเทียบ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณบูรณะกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า หลุมขุดค้นหมู่บ้านโปรตุเกส น้ำได้เข้าท่วมจมทั้งหมดแล้ว จึงมอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยาเข้าไปสำรวจความเสียหายแล้ว
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถาน ใน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ว่า ตรวจสอบพบว่าโบราณสถานเขตเกาะเมือง ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนาราม เพราะกระแสน้ำไหลแรงทำให้แนวกำแพงที่กั้นน้ำด้านข้างวัดขาดยาวกว่า 60 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมโบราณสถานทั้งหมด เบื้องต้นจังหวัดจัดกระสอบทราย 30,000 กระสอบ ทำเป็นกำแพงกั้นน้ำตามแนวถนนรอบโบราณสถาน จากนั้นจะเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่โบราณสถาน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ให้โบราณสถานแช่น้ำนานๆ โครงสร้างโบราณสถานที่ทำด้วยอิฐ มีอายุยาวนานจะส่งผลให้ฐานรากของโบราณสถานต่างๆ ทรุดและพังทลายได้ อย่างไรก็ตามมอบหมายให้กรมศิลปากรสรุปความเสียหายหลังน้ำลดเสนอของบประมาณบูรณะซ่อมแซมต่อไป
ขณะที่ นางโสมสุดา กล่าวว่า โบราณวัดไชยวัฒนาราม ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะกระแสน้ำแรง จึงเป็นห่วงว่าฐานเจดีย์องค์ต่างๆ รวมถึงซุ้มประตู ที่มีขนาดเล็กอาจหลุดพังไปกับกระแสน้ำ อย่างไรก็ตาม หากโบราณสถานต่างๆ แช่น้ำ 2-3 วัน ตัวโครงสร้างอาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากนานเกิน 7 วัน จะทำให้ตัวโครงสร้างโบราณสถานเปื่อยยุ่ย และทรุดลงได้ อย่างไรก็ตาม จะให้วิศวกรและนักโบราณคดีเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างโบราณสถานทั้งหมด โดยนำแผนบูรณะปี 2539 มาเปรียบเทียบ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณบูรณะกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า หลุมขุดค้นหมู่บ้านโปรตุเกส น้ำได้เข้าท่วมจมทั้งหมดแล้ว จึงมอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยาเข้าไปสำรวจความเสียหายแล้ว
