ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำริมคลองบางกอกน้อย เผยสถานการณ์ไม่น่าห่วง เตรียมรับมือพายุเปรสชั่น 4-5 ต.ค.นี้ ตลอด 24 ชั่วโมง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะรองผู้ว่าฯ ปลัด กทม. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ริมคลองบางกอกน้อย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทุกปี พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกบริเวณแนวป้องกันน้ำ ยังไม่มีเหตุใดต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณน้ำปีนี้น้อยกว่าปี 2553 สำหรับปริมาณน้ำวันนี้วัดได้สูง 1.98 เมตร ขณะที่แนวป้องกันน้ำรับได้ 2.5 เมตร ดังนั้น ประชาชนที่อยู่ในแนวป้องกันน้ำยังไม่ได้รับผลกระทบ หากระดับน้ำไม่ถึง 2.3 เมตร แต่สำหรับประชาชนนอกแนวเขตกั้นน้ำ 27 ชุมชน 1,200 หลังคาเรือน จะได้รับผลกระทบเมื่อระดับน้ำสูง 1.7 เมตร และจากการเข้าสำรวจในชุมชนสันติชนสงเคราะห์ วันนี้ น้ำน้อยกว่าปีที่แล้วราว 1 คืบ อย่างไรก็ตาม กทม.ไม่นิ่งนอนใจ เพราะปริมาณน้ำปีนี้เต็มเกือบทุกเขื่อน อีกทั้งวันที่ 4-5 ต.ค.นี้ จะมีพายุดีเปรสชั่นเข้ามาอีก จึงเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงมาตรการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองบางกอกน้อย ระยะทาง 385 เมตรว่า ขณะนี้ มีบ้านเรือนรุกล้ำ 21 หลัง และยินยอมให้รื้อถอนแล้ว 17 หลัง ยังเหลืออีก 4 หลังที่ไม่ยินยอม ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเข้ามาในชุมชนเหมือนทุกปี แต่ทาง กทม.จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำ โดยไม่รอ 4 หลังที่เหลือ คาดว่าจะเสร็จในปีหน้า
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์น้ำจากบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะไหลลงมาถึงกรุงเทพฯ นั้น ช่วงสายวันนี้จะไปดูพื้นที่เขตดอนเมือง เพราะเริ่มมีปัญหา โดยวันนี้มีปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านบริเวณบางไทร 3,497 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งปริมาณที่ กทม.รับได้ คือ 3,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ขณะที่นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน.) กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปริมาณน้ำจะเกินระดับปกติ แต่ กทม.มีมาตรการระบายน้ำ อาทิ สูบน้ำออก ทำแนวป้องกัน พร่องน้ำ และอุโมงยักษ์ จึงมั่นใจว่า ระดับน้ำที่ไหลลงมาขณะนี้ แม้เกินระดับที่รับได้ แต่ยังไม่ต้องทำการอพยพประชาชนริมเจ้าพระยา
