“สุกรี” บอกเฉยๆ กับความเห็นของอนุ กก.พิจารณาหลักสูตรฯ โบ้ย สกอ.ตอบคำถามสังคมในอนาคตเหตุใดบุคลากรคุณภาพของมหิดลจึงไมได้ช่วยงานประเทศชาติ ระบุมหา’ลัยระงับหนังสือลาออกแล้ว จากนี้จะทำหน้าที่ครู และเดินหน้าตามแนวทางที่วางไว้
ศ.ดร.สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต ได้นำหลักสูตรดุริยางคศิลป์ ของมหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) และ มม.รวมถึงของต่างประเทศ ทั้งของอังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย มาเปรียบเทียบกับหลักสูตรในแขนงวิชาเทคโนโลยีดนตรี และแขนงวิชาธุรกิจดนตรี ของ มม.โดยให้ความเห็นว่า หลักสูตรของ มม.นั้นเน้นในเรื่องการดูแลดนตรี และวิชาการมาก ทำให้การยอมรับเรื่องความเป็นดุริยางคศาสตร์บัณฑิตน้อยลงไป จึงแนะว่าให้ปรับบางวิชาไปเป็นวิชาเลือก พร้อมกันนี้ จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) วันที่ 6 ต.ค.นี้ว่า ตนรู้สึกเฉยๆ กับผลที่ออกมา และอย่างที่เคยบอกว่าผู้ทรงคุณวุฒิที่มาพิจารณานั้นไม่ได้มีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจดนตรี และเทคโนโลยีดนตรี ซึ่งเป็นความรู้ใหม่ แต่กลับให้มาดูเรื่องนี้ย่อมไม่มีความเข้าใจ และสุดท้ายก็ผลเป็นเช่นนี้
“คำแนะนำที่ให้ปรับเป็นวิชาเลือกนั้น ผมถามว่าถ้าวันนี้คุณเดินหน้าไปแล้วอีกทั้งหลักสูตรนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เป็นคุณจะถอยหลังกลับไปอีกหรือ และวันนี้นักศึกษาผมทุกคนก็ได้ใช้หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต แม้ว่าอนาคตเด็กที่จบไปจะไม่ได้รับราชการก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกผมต้องตอบ เพราะเด็กทุกคนรับรู้และเข้าใจดี อีกทั้งสิ่งที่ผมพยายามเรียกร้องและสู้มาตลอดนั้นก็เพื่อลูกศิษย์ เพื่อประเทศ ดังนั้น สังคมคงต้องตั้งคำถามกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เองว่าทำไมบุคลากรของมหิดลซึ่งเป็นบุคคลคุณภาพจึงไม่ได้รับราชการเพื่อช่วยงานประเทศชาติ”ศ.ดร.สุกรี กล่าว
ส่วนที่มีข่าวว่า สกอ.จะเชิญทางมหาวิทยาลัยเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงในการประชุม กกอ.วันที่ 6 ต.ค.นั้น ศ.ดร.สุกรี กล่าวว่า ตนคงไม่เข้าไปยุ่ง เพราะเรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล ส่วนกรณีที่ตนยื่นหนังสือลาออกจากคณบดีไว้โดยระบุให้มีผลวันที่ 30 ก.ย.นั้น เนื่องจากขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ระงับหนังสือลาออกไว้ เพราะฉะนั้น ตนก็จะทำหน้าที่ของตนในฐานะครู และเดินหน้าตามแนวทางที่วางไว้