กกอ.ยอมถอยตั้ง กก.เฉพาะกิจขึ้นมาพิจารณากรณี วท.ดุริยางค์ฯ เตรียมลงไปตรวจสอบการนับหน่วยกิตที่ไม่ตรงกันของทาง มม.และ อนุกก.มาตรฐานอุดมศึกษา “กำจร” ย้ำ นศ.ที่จบแล้วไม่จำเป็นต้องเรียนเพิ่ม เพราะถือว่าเป็นการเรียนช่วงที่มีการปรับหลักสูตร
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ถึงกรณีที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เดินทางมายื่นหนังสือและชี้แจงกับนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เพื่อขอให้ กกอ.รับรองชื่อปริญญาดุริยางคศาสตร์บัณฑิต เนื่องจากที่ผ่านมา กกอ.ไม่เห็นชอบให้นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรเทคโนโลยีดนตรี และหลักสูตรธุรกิจดนตรี ว่า ตนรับทราบปัญหาและเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหานี้เกิดจากความคิดเห็นทางวิชาการที่แตกต่าง แต่ตนในฐานะที่ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)จะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และจะเป็นตัวกลางประสานให้มีการแก้ไขปัญหาโดยยืนยันว่าจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด รวมทั้งให้นักศึกษาที่จบออกไปต้องมีงานทำ โดยได้มอบหมายให้นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นผู้ประสานงานระหว่างคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ได้พูดคุยโดยเร็วที่สุด โดยขอให้ยึดประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาประเทศชาติเป็นหลัก
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวภายหลังประชุม กกอ.ว่า ที่ประชุม กกอ.ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวและได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบให้ตนเป็นประธาน ซึ่งตนจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมพิจารณาด้วยแต่คงไม่สามารถบอกได้ขณะนี้ ว่า จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมหรือชุดใหม่ ซึ่งจากนี้จะนำข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้มาและข้อมูลของนักศึกษามาพิจารณาประกอบ โดยเฉพาะในเรื่องของหน่วยกิตที่ ม.มหิดล ชี้แจงว่า เรียน 60 หน่วยกิต แต่ทางอนุกรรมการมาตรฐานอุดมศึกษา นับได้ 52 หน่วยกิต ซึ่งจุดนี้จะต้องไปดูเปรียบเทียบกับข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่สอนดุริยางคศิลป์อื่นๆ ว่า เป็นในลักษณะใด ถามผู้รู้ให้อธิบายวิธีการนับหน่วยกิตด้วย ซึ่งหากพิจารณาแล้วครบ 60 หน่วยกิต ก็ถือว่าครบตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่หากมีความจำเป็นต้องปรับหลักสูตร นักศึกษาที่จบไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเพิ่มเพราะถือว่าอยู่ในช่วงปรับปรุงหลักสูตร
อย่างไรก็ตาม อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนชื่อปริญญาเป็นดุริยางคศาสตรบัณฑิต โดยทาง สกอ.จะช่วยอย่างเต็มที่เพื่อให้วิทยาลัยได้ปริญญาตามที่ต้องการ ส่วนที่จะสามารถดำเนินการได้ทันวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นกำหนดที่นายสุกรีจะออกจากตำแหน่งที่ได้ระบุในหนังสือลาออกหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการไปเยี่ยมวิทยาลัยนั้น มีกรรมการบางท่านให้ความสนใจจะลงไปแต่คงไม่ได้ไปเยี่ยมอย่างเป็นทางการ
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ถึงกรณีที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เดินทางมายื่นหนังสือและชี้แจงกับนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เพื่อขอให้ กกอ.รับรองชื่อปริญญาดุริยางคศาสตร์บัณฑิต เนื่องจากที่ผ่านมา กกอ.ไม่เห็นชอบให้นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรเทคโนโลยีดนตรี และหลักสูตรธุรกิจดนตรี ว่า ตนรับทราบปัญหาและเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหานี้เกิดจากความคิดเห็นทางวิชาการที่แตกต่าง แต่ตนในฐานะที่ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)จะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และจะเป็นตัวกลางประสานให้มีการแก้ไขปัญหาโดยยืนยันว่าจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด รวมทั้งให้นักศึกษาที่จบออกไปต้องมีงานทำ โดยได้มอบหมายให้นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นผู้ประสานงานระหว่างคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ได้พูดคุยโดยเร็วที่สุด โดยขอให้ยึดประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาประเทศชาติเป็นหลัก
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวภายหลังประชุม กกอ.ว่า ที่ประชุม กกอ.ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวและได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบให้ตนเป็นประธาน ซึ่งตนจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมพิจารณาด้วยแต่คงไม่สามารถบอกได้ขณะนี้ ว่า จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมหรือชุดใหม่ ซึ่งจากนี้จะนำข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้มาและข้อมูลของนักศึกษามาพิจารณาประกอบ โดยเฉพาะในเรื่องของหน่วยกิตที่ ม.มหิดล ชี้แจงว่า เรียน 60 หน่วยกิต แต่ทางอนุกรรมการมาตรฐานอุดมศึกษา นับได้ 52 หน่วยกิต ซึ่งจุดนี้จะต้องไปดูเปรียบเทียบกับข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่สอนดุริยางคศิลป์อื่นๆ ว่า เป็นในลักษณะใด ถามผู้รู้ให้อธิบายวิธีการนับหน่วยกิตด้วย ซึ่งหากพิจารณาแล้วครบ 60 หน่วยกิต ก็ถือว่าครบตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่หากมีความจำเป็นต้องปรับหลักสูตร นักศึกษาที่จบไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเพิ่มเพราะถือว่าอยู่ในช่วงปรับปรุงหลักสูตร
อย่างไรก็ตาม อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนชื่อปริญญาเป็นดุริยางคศาสตรบัณฑิต โดยทาง สกอ.จะช่วยอย่างเต็มที่เพื่อให้วิทยาลัยได้ปริญญาตามที่ต้องการ ส่วนที่จะสามารถดำเนินการได้ทันวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นกำหนดที่นายสุกรีจะออกจากตำแหน่งที่ได้ระบุในหนังสือลาออกหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการไปเยี่ยมวิทยาลัยนั้น มีกรรมการบางท่านให้ความสนใจจะลงไปแต่คงไม่ได้ไปเยี่ยมอย่างเป็นทางการ
