ศธ.ฉาว!! อีสานถิ่นเสื้อแดงตั้งโต๊ะเรียกเงินสอบบรรจุบุคลากรในเขตพื้นที่ สอบติดบรรจุเลยจ่าย 7.3 แสนบาท ขึ้นบัญชีไว้ก่อนจ่าย 3.5 แสนบาท ตกลงรับเงื่อนไขจ่ายทันที 2 แสนบาท ประกาศรายชื่อจ่ายอีก 1.5 แสนบาท ด้าน “วรวัจน์” สั่งเบรกจัดสอบไม่มีกำหนดและตั้ง กก.มาทำข้อสอบใหม่ พร้อมให้ สพฐ.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ลั่นไม่ยอมให้มีการเรียกรับเงินใดๆ ในการโยกย้ายของ ศธ.หากพบจะเอาผิดทางวินัยและกฎหมาย “ชินภัทร” เผยจัดสอบใน 12 สพท.อัตราว่าง 60 ตำแหน่งแต่มีคนแห่สมัครกว่า 7 หมื่นคน
วันนี้ (22 ก.ย.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับข้อมูลจากกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษEร (ส.ส.) ของพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่ขอให้ตรวจสอบเรื่องการเปิดสอบบรรจุบุคลากรเข้าปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่งจะมีการจัดสอบในวันที่ 25 ก.ย.นี้ใน 12 สพท.ทั่วประเทศ แต่เนื่องจากมีบาง สพท.ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต คือ มีการเรียกรับเงิน โดยขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ระงับและเลื่อนสอบทั้งหมดออกไปก่อน โดยในส่วนของการจัดสอบนั้นจะมีการออกข้อสอบใหม่ทั้งหมด ทั้งภาค ก.และภาค ข.โดยจะตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งเป็นคนจากส่วนกลางขึ้นมา 1 คณะเพื่อออกข้อสอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวทั้ง 12 สพท.ที่เปิดสอบว่ามีการเรียกรับเงินจริงหรือไม่ หากพบว่ามี สพท.ใดที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
“ผมจะไม่ยอมให้มีการเรียกรับเงินในการบรรจุ หรือโยกย้ายใดๆ ทั้งสิ้นของกระทรวง ถ้าพบก็จะตั้งกรรมการสอบทางวินัย และเอาผิดทางกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบพฤติกรรมดังกล่าวแล้วทางภาคอีสาน โดยมีการตั้งโต๊ะเรียกรับเงินในการสอบบรรจุ หากต้องการให้ได้รับการบรรจุทันทีต้องจ่าย 730,000 บาท ถ้าขอให้ชื่อขึ้นบัญชีต้องจ่าย 350,000 บาท โดยหากตกลงจะต้องจ่ายก้อนแรกก่อน 200,000 บาท และในวันที่ประกาศรายชื่อต้องจ่ายอีก 150,000 บาท ส่วนที่เหลือให้จ่ายในวันที่เรียกบรรจุ” นายวรวัจน์ กล่าว
ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า การสอบครั้งนี้มีตำแหน่งว่าง 60 อัตรา ใน 12 สพท.แต่มีผู้สมัครเข้ารับการสอบบรรจุกว่า 73,000 คน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เกิดผลกระทบในวงกว้างขึ้นมาจึงต้องให้ชะลอออกไปก่อน เพื่อวางระบบการป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยจะมีการปรับระบบการสอบใหม่ทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งคงต้องนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่ง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาจะต้องรับผิดชอบ จะนิ่งเฉยปล่อยให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายมีการเรียกผลประโยชน์หรือประพฤติมิชอบไม่ได้
ทั้งนี้ สำหรับ สพท.ที่เปิดสอบทั้ง 12 เขต ได้แก่ สพท.พะเยา เขต 2 สพท.นครสรรค์ เขต 3 สพท.เพชรบูรณ์ เขต 3 สพท.ขอนแก่น เขต 3 สพท.นครราชสีมา เขต 7 สพท.หนองคาย เขต 2-3 สพท.นครพนม เขต 2 สพท.กาญจนบุรี เขต 4 สพท.ยะลา เขต 2-3 และ สพท.นราธิวาส เขต 1
วันนี้ (22 ก.ย.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับข้อมูลจากกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษEร (ส.ส.) ของพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ที่ขอให้ตรวจสอบเรื่องการเปิดสอบบรรจุบุคลากรเข้าปฏิบัติงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่งจะมีการจัดสอบในวันที่ 25 ก.ย.นี้ใน 12 สพท.ทั่วประเทศ แต่เนื่องจากมีบาง สพท.ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต คือ มีการเรียกรับเงิน โดยขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ระงับและเลื่อนสอบทั้งหมดออกไปก่อน โดยในส่วนของการจัดสอบนั้นจะมีการออกข้อสอบใหม่ทั้งหมด ทั้งภาค ก.และภาค ข.โดยจะตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งเป็นคนจากส่วนกลางขึ้นมา 1 คณะเพื่อออกข้อสอบให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวทั้ง 12 สพท.ที่เปิดสอบว่ามีการเรียกรับเงินจริงหรือไม่ หากพบว่ามี สพท.ใดที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริงก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
“ผมจะไม่ยอมให้มีการเรียกรับเงินในการบรรจุ หรือโยกย้ายใดๆ ทั้งสิ้นของกระทรวง ถ้าพบก็จะตั้งกรรมการสอบทางวินัย และเอาผิดทางกฎหมายด้วย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบพฤติกรรมดังกล่าวแล้วทางภาคอีสาน โดยมีการตั้งโต๊ะเรียกรับเงินในการสอบบรรจุ หากต้องการให้ได้รับการบรรจุทันทีต้องจ่าย 730,000 บาท ถ้าขอให้ชื่อขึ้นบัญชีต้องจ่าย 350,000 บาท โดยหากตกลงจะต้องจ่ายก้อนแรกก่อน 200,000 บาท และในวันที่ประกาศรายชื่อต้องจ่ายอีก 150,000 บาท ส่วนที่เหลือให้จ่ายในวันที่เรียกบรรจุ” นายวรวัจน์ กล่าว
ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า การสอบครั้งนี้มีตำแหน่งว่าง 60 อัตรา ใน 12 สพท.แต่มีผู้สมัครเข้ารับการสอบบรรจุกว่า 73,000 คน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เกิดผลกระทบในวงกว้างขึ้นมาจึงต้องให้ชะลอออกไปก่อน เพื่อวางระบบการป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยจะมีการปรับระบบการสอบใหม่ทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งคงต้องนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่ง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาจะต้องรับผิดชอบ จะนิ่งเฉยปล่อยให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายมีการเรียกผลประโยชน์หรือประพฤติมิชอบไม่ได้
ทั้งนี้ สำหรับ สพท.ที่เปิดสอบทั้ง 12 เขต ได้แก่ สพท.พะเยา เขต 2 สพท.นครสรรค์ เขต 3 สพท.เพชรบูรณ์ เขต 3 สพท.ขอนแก่น เขต 3 สพท.นครราชสีมา เขต 7 สพท.หนองคาย เขต 2-3 สพท.นครพนม เขต 2 สพท.กาญจนบุรี เขต 4 สพท.ยะลา เขต 2-3 และ สพท.นราธิวาส เขต 1