เปิดโปงขบวนการชักจูงคนเปลี่ยนศาสนาโดยไร้จริยธรรม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล
พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวังโส ประธานกลุ่มกัลยาณมิตรเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายวิถีพุทธ วัดสุทัศนเทพวราราม ในฐานะเครือข่ายศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เรื่องของศาสนามีปัญหามากและไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด โดยเฉพาะการประเมินผลงานด้านการศึกษาและสอบธรรมศึกษาเกิดความไม่ซื่อตรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาสงฆ์ได้ ซึ่งไม่ต่างจากการประเมินผลงานครู ที่ครูบางคนมีการจ้างทำผลงาน แต่ในส่วนของพระจะหนักกว่า เพราะไม่มีใครกล้าแตะต้อง หากมีการประเมินระบบการศึกษาของพระจริงจังอาจจะมีตัวเลขอะไรออกมาที่ทำให้คนไทยตื่นตระหนกก็ได้ ในส่วนของระบบการศึกษาคณะสงฆ์นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหา แต่ติดปัญหาบางอย่าง เช่น วัฒนธรรมเดิมๆ ของพระ เป็นต้น ส่งผลให้การพัฒนาระบบการศึกษาคณะสงฆ์เกิดความล่าช้า ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจริงจังกับเรื่องนี้การศึกษาคณะสงฆ์จะเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
พระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตข้างหน้าคิดว่าจะมีข้อขัดแย้งระหว่างศาสนามากขึ้น การสมานฉันท์แค่เพียงรณรงค์จะไม่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ว่าจะทำให้เราประมาทว่า มีภาพรักสามัคคีกันอยู่ แต่ความจริงแล้ว ต้นตอของความขัดแย้งยังอยู่ ประเด็นสากลที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป ก็คือ การชักจูงให้คนเปลี่ยนศาสนาโดยไร้จริยธรรม ซึ่งเป็นประเด็นรุนแรงมากในหลายพื้นที่รวมทั้งในประเทศไทย เช่น การเอาเงินไปซื้อให้คนเปลี่ยนศาสนา การเอาผลประโยชน์ไปล่อหลอกให้คนเปลี่ยนศาสนา การใช้อำนาจบีบบังคับหรือใช้ความรุนแรง ถือว่าเป็นการชักจูงให้คนเปลี่ยนศาสนาโดยไร้จริยธรรม ในการชักจูงในคนเปลี่ยนศาสนาสิ่งนั้นถือว่าไม่ถูกต้อง อาตมาอยากให้บรรจุเรื่องนี้ไว้เป็นเรื่องสำคัญของศูนย์คุณธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้เป็นการป้องกันความไม่สมานฉันท์เกิดขึ้นในอนาคต
พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวังโส ประธานกลุ่มกัลยาณมิตรเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายวิถีพุทธ วัดสุทัศนเทพวราราม ในฐานะเครือข่ายศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เรื่องของศาสนามีปัญหามากและไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด โดยเฉพาะการประเมินผลงานด้านการศึกษาและสอบธรรมศึกษาเกิดความไม่ซื่อตรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาสงฆ์ได้ ซึ่งไม่ต่างจากการประเมินผลงานครู ที่ครูบางคนมีการจ้างทำผลงาน แต่ในส่วนของพระจะหนักกว่า เพราะไม่มีใครกล้าแตะต้อง หากมีการประเมินระบบการศึกษาของพระจริงจังอาจจะมีตัวเลขอะไรออกมาที่ทำให้คนไทยตื่นตระหนกก็ได้ ในส่วนของระบบการศึกษาคณะสงฆ์นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหา แต่ติดปัญหาบางอย่าง เช่น วัฒนธรรมเดิมๆ ของพระ เป็นต้น ส่งผลให้การพัฒนาระบบการศึกษาคณะสงฆ์เกิดความล่าช้า ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจริงจังกับเรื่องนี้การศึกษาคณะสงฆ์จะเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
พระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตข้างหน้าคิดว่าจะมีข้อขัดแย้งระหว่างศาสนามากขึ้น การสมานฉันท์แค่เพียงรณรงค์จะไม่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ว่าจะทำให้เราประมาทว่า มีภาพรักสามัคคีกันอยู่ แต่ความจริงแล้ว ต้นตอของความขัดแย้งยังอยู่ ประเด็นสากลที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป ก็คือ การชักจูงให้คนเปลี่ยนศาสนาโดยไร้จริยธรรม ซึ่งเป็นประเด็นรุนแรงมากในหลายพื้นที่รวมทั้งในประเทศไทย เช่น การเอาเงินไปซื้อให้คนเปลี่ยนศาสนา การเอาผลประโยชน์ไปล่อหลอกให้คนเปลี่ยนศาสนา การใช้อำนาจบีบบังคับหรือใช้ความรุนแรง ถือว่าเป็นการชักจูงให้คนเปลี่ยนศาสนาโดยไร้จริยธรรม ในการชักจูงในคนเปลี่ยนศาสนาสิ่งนั้นถือว่าไม่ถูกต้อง อาตมาอยากให้บรรจุเรื่องนี้ไว้เป็นเรื่องสำคัญของศูนย์คุณธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะทำให้เป็นการป้องกันความไม่สมานฉันท์เกิดขึ้นในอนาคต
