มติ กก.อุดมศึกษาเห็นด้วยปรับกฎ และประกาศ ศธ. เรื่องเปิดศูนย์นอกที่ตั้งของสถาบันอุดมฯ เน้นวิชาการเข้ม เพิ่มเกณฑ์ให้ สกอ.ประเมินความพร้อมก่อนเปิด ป้องกันปัญหาเรื่องคุณภาพ เล็งส่งรายชื่อสถาบันอุดมฯที่เปิดศูนย์นอกที่ตั้งโดยที่ กกอ.ไม่รับทราบให้ สมศ.ซึ่งจะส่งผลให้ศูนย์เหล่านี้ไม่ได้รับรองคุณภาพจาก สมศ.
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ตนได้สรุปรายงานผลการเตรียมเยี่ยมสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมด 76 สถาบัน ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยคความเรียบร้อยดี และพบว่าบางแห่งมีการจัดการเรียนการสอนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กกอ. กำหนด ซึ่งคณะกรรมการที่ไปเตรียมเยี่ยมได้มีข้อเสนอแนะเพื่อให้การเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และหากมหาวิทยาลัยใดไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงตามที่คณะกรรมการเสนอได้ ทางมหาวิทยาลัยจะปิดหลักสูตรดังกล่าวเอง ทั้งนี้ ตนได้เสนอต่อ กกอ.ให้แจ้งไปยังสภามหาวิทยาลัยทุกแห่งที่ได้รับการตรวจเยี่ยมแล้ว ว่าผลการตรวจเยี่ยมเป็นอย่างไร และมีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง ซึ่งทางกกอ.เห็นชอบให้ทำข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้สภามหาวิทยาลัย อาจจะยังไม่ทราบ ดังนั้นต้องแจ้งไป และหากมีปัญหาจะได้ดำเนินการแก้ไข และถ้าไม่สามารถดำเนินการได้จะต้องมีการปิดหลักสูตรเช่นกัน เนื่องจากสภามหาวิทยาลัย มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สกอ.จะต้องสรุปภาพรวมของการตรวจเยี่ยมทั้งหมดเพื่อเสนอกกอ.ให้รับทราบในการประชุมครั้งต่อไป จากนั้นต้องนำผลเผยแพร่ให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้รับทราบเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งเป็นอย่างไร และจะเข้าศึกษาต่อหรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของสถาบันใดที่คณะกรรมแนะนำให้ไปปรับปรุงจะมีช่วงระยะเวลาในการดำเนินการปรับปรุงโดยให้เวลา 1 ภาคเรียน จากนั้นทางคณะกรรมการตรวจเยี่ยมจะเข้าไปตรวจประเมินอีกครั้ง หากไม่ผ่านมหาวิทยาลัยจะต้องพิจารณาปิดหลักดังกล่าว
รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังรายงานถึง เรื่องการจัดการศึกษานอกที่ตั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาปรับปรับปรุงกฎกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2551 และประกาศ ศธ.ว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐพ.ศ.2552 เพื่อให้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการเปิดศูนย์ฯ มีความเข้มข้นทางวิชาการมากขึ้น ขณะเดียวกันอาจจะมีข้อเสนอให้กำหนดว่าก่อนเปิด จะต้องมีคณะกรรมการจากสกอ.เข้าไปตรวจเยี่ยมและประเมินถึงความพร้อมในการดำเนินการ และถ้าเปิดไปแล้วจะต้องไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ
“กรณีสถาบันอุดมศึกษาที่ไปเปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกที่ตั้งที่กกอ.ไม่รับทราบ ทางสกอ.จะส่งรายชื่อสถาบันให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ได้รับทราบว่ามีศูนย์ใดบ้างที่เปิดสอนโดยที่ กกอ.ไม่รับทราบ ซึ่งจะส่งผลให้สมศ.ไม่เข้าไปประเมิน ทำให้ลักสูตรนั้นไม่ผ่านการรับรองจากสมศ. และทำให้นักศึกษาที่เรียนได้รับการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ”รศ.นพ.กำจร กล่าว
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ตนได้สรุปรายงานผลการเตรียมเยี่ยมสถาบันอุดมศึกษาทั้งหมด 76 สถาบัน ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยคความเรียบร้อยดี และพบว่าบางแห่งมีการจัดการเรียนการสอนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กกอ. กำหนด ซึ่งคณะกรรมการที่ไปเตรียมเยี่ยมได้มีข้อเสนอแนะเพื่อให้การเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และหากมหาวิทยาลัยใดไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงตามที่คณะกรรมการเสนอได้ ทางมหาวิทยาลัยจะปิดหลักสูตรดังกล่าวเอง ทั้งนี้ ตนได้เสนอต่อ กกอ.ให้แจ้งไปยังสภามหาวิทยาลัยทุกแห่งที่ได้รับการตรวจเยี่ยมแล้ว ว่าผลการตรวจเยี่ยมเป็นอย่างไร และมีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง ซึ่งทางกกอ.เห็นชอบให้ทำข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้สภามหาวิทยาลัย อาจจะยังไม่ทราบ ดังนั้นต้องแจ้งไป และหากมีปัญหาจะได้ดำเนินการแก้ไข และถ้าไม่สามารถดำเนินการได้จะต้องมีการปิดหลักสูตรเช่นกัน เนื่องจากสภามหาวิทยาลัย มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สกอ.จะต้องสรุปภาพรวมของการตรวจเยี่ยมทั้งหมดเพื่อเสนอกกอ.ให้รับทราบในการประชุมครั้งต่อไป จากนั้นต้องนำผลเผยแพร่ให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้รับทราบเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจว่ามหาวิทยาลัยแต่ละแห่งเป็นอย่างไร และจะเข้าศึกษาต่อหรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของสถาบันใดที่คณะกรรมแนะนำให้ไปปรับปรุงจะมีช่วงระยะเวลาในการดำเนินการปรับปรุงโดยให้เวลา 1 ภาคเรียน จากนั้นทางคณะกรรมการตรวจเยี่ยมจะเข้าไปตรวจประเมินอีกครั้ง หากไม่ผ่านมหาวิทยาลัยจะต้องพิจารณาปิดหลักดังกล่าว
รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังรายงานถึง เรื่องการจัดการศึกษานอกที่ตั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาปรับปรับปรุงกฎกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2551 และประกาศ ศธ.ว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐพ.ศ.2552 เพื่อให้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ในการเปิดศูนย์ฯ มีความเข้มข้นทางวิชาการมากขึ้น ขณะเดียวกันอาจจะมีข้อเสนอให้กำหนดว่าก่อนเปิด จะต้องมีคณะกรรมการจากสกอ.เข้าไปตรวจเยี่ยมและประเมินถึงความพร้อมในการดำเนินการ และถ้าเปิดไปแล้วจะต้องไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ
“กรณีสถาบันอุดมศึกษาที่ไปเปิดศูนย์การจัดการศึกษานอกที่ตั้งที่กกอ.ไม่รับทราบ ทางสกอ.จะส่งรายชื่อสถาบันให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ได้รับทราบว่ามีศูนย์ใดบ้างที่เปิดสอนโดยที่ กกอ.ไม่รับทราบ ซึ่งจะส่งผลให้สมศ.ไม่เข้าไปประเมิน ทำให้ลักสูตรนั้นไม่ผ่านการรับรองจากสมศ. และทำให้นักศึกษาที่เรียนได้รับการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ”รศ.นพ.กำจร กล่าว