“วิทยา” ห่วงโรคไข้หวัดนกในคน และโรคมือเท้าปากในเด็กเล็ก ให้ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนกร่วมกันระหว่างกรมควบคุมโรคกับกรมปศุสัตว์ กำชับจังหวัดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และให้ตั้งวอร์รูมโรคมือเท้าปากร่วมกับ กทม.กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคม เพื่อควบคุมป้องกัน เพื่อให้เด็กปลอดภัยจากโรคนี้ ให้เร็วที่สุด
วันนี้ (1 ก.ย.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) พร้อมด้วยนายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการหรือวอร์รูมกรมควบคุมโรค เพื่อติดตามระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศหรือภาวะเร่งด่วน สามารถดำเนินการวางแผนป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
นายวิทยา กล่าวว่า โรคเร่งด่วนที่เป็นห่วงและให้ความสำคัญ ต้องเร่งดำเนินการขณะนี้มี 2 โรค คือ โรคไข้หวัดนกในคน และโรคมือเท้าปากในเด็กเล็ก ให้วอร์รูมกรมควบคุมโรค เฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ หากพบผู้ป่วยต้องรายงานให้เร็วที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า โรคไข้หวัดนกนั้น องค์การอนามัยโลกรายงานว่า พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในประเทศกัมพูชา 8 ราย รายสุดท้ายเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้มีหนังสือเตือนประเทศในแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ระวังเชื้อไข้หวัดนกกลายพันธุ์ ซึ่งแม้ไทยไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมาเกือบ 5 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีความเสี่ยงอาจเกิดโรคนี้ได้อีก เนื่องจากปีนี้ไทยประสบปัญหาน้ำท่วมมากหลายแห่ง ทำให้สัตว์ปีกไม่มีที่อยู่ และมีโอกาสใกล้ชิดกับคนมากขึ้น จึงได้กำชับทุกจังหวัดให้เฝ้าระวังโรค โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เข้มเป็นพิเศษ และจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อขอความร่วมมือตั้งวอร์รูมเพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวังโรคและดำเนินการอื่นๆ ร่วมกัน
สำหรับโรคมือเท้าปากในเด็ก ซึ่งสถานการณ์โรค ขณะนี้ดีขึ้นทุกจังหวัด จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากที่เคยพบในสัปดาห์ก่อนๆ 600 รายทั่วประเทศ แต่สัปดาห์นี้พบประมาณ 400 ราย ยอดสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2554 มีรายงานผู้ป่วยจาก 76 จังหวัด รวมทั้งหมด 8,842 ราย เสียชีวิตเท่าเดิม 4 ราย แต่คาดว่า แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยจะยังคงมีเพิ่มขึ้น โรคนี้มักเกิดขึ้นกับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบเป็นส่วนใหญ่ จะต้องควบคุมโรคป้องกันต่อเนื่อง โดยจะให้วอร์รูมของกรมควบคุมโรคเชิญผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้อง คือ กทม.กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ร่วมประชุมเพื่อร่วมมือกันเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันโรค เพื่อให้เด็กปลอดภัยจากโรคนี้ให้เร็วที่สุด
วันนี้ (1 ก.ย.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) พร้อมด้วยนายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการหรือวอร์รูมกรมควบคุมโรค เพื่อติดตามระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศหรือภาวะเร่งด่วน สามารถดำเนินการวางแผนป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
นายวิทยา กล่าวว่า โรคเร่งด่วนที่เป็นห่วงและให้ความสำคัญ ต้องเร่งดำเนินการขณะนี้มี 2 โรค คือ โรคไข้หวัดนกในคน และโรคมือเท้าปากในเด็กเล็ก ให้วอร์รูมกรมควบคุมโรค เฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ หากพบผู้ป่วยต้องรายงานให้เร็วที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวิทยา กล่าวต่อว่า โรคไข้หวัดนกนั้น องค์การอนามัยโลกรายงานว่า พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในประเทศกัมพูชา 8 ราย รายสุดท้ายเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ได้มีหนังสือเตือนประเทศในแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้ระวังเชื้อไข้หวัดนกกลายพันธุ์ ซึ่งแม้ไทยไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมาเกือบ 5 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีความเสี่ยงอาจเกิดโรคนี้ได้อีก เนื่องจากปีนี้ไทยประสบปัญหาน้ำท่วมมากหลายแห่ง ทำให้สัตว์ปีกไม่มีที่อยู่ และมีโอกาสใกล้ชิดกับคนมากขึ้น จึงได้กำชับทุกจังหวัดให้เฝ้าระวังโรค โดยเฉพาะจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เข้มเป็นพิเศษ และจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อขอความร่วมมือตั้งวอร์รูมเพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวังโรคและดำเนินการอื่นๆ ร่วมกัน
สำหรับโรคมือเท้าปากในเด็ก ซึ่งสถานการณ์โรค ขณะนี้ดีขึ้นทุกจังหวัด จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากที่เคยพบในสัปดาห์ก่อนๆ 600 รายทั่วประเทศ แต่สัปดาห์นี้พบประมาณ 400 ราย ยอดสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2554 มีรายงานผู้ป่วยจาก 76 จังหวัด รวมทั้งหมด 8,842 ราย เสียชีวิตเท่าเดิม 4 ราย แต่คาดว่า แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยจะยังคงมีเพิ่มขึ้น โรคนี้มักเกิดขึ้นกับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบเป็นส่วนใหญ่ จะต้องควบคุมโรคป้องกันต่อเนื่อง โดยจะให้วอร์รูมของกรมควบคุมโรคเชิญผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้อง คือ กทม.กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ร่วมประชุมเพื่อร่วมมือกันเฝ้าระวังและควบคุมป้องกันโรค เพื่อให้เด็กปลอดภัยจากโรคนี้ให้เร็วที่สุด
