xs
xsm
sm
md
lg

คนกว่า 4.5 ล้านคนขอเวลาเกิน 1 ปี เพื่อเลิกบุหรี่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนไทยกว่า 4.5 ล้านคน ต้องการเวลามากกว่า 1 ปี เพื่อเลิกบุหรี่ พบ 88 เปอร์เซ็นต์ ต้องการที่จะเลิกด้วยตัวเอง
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวในเวทีอภิปราย การประชุม วิชาการครั้งที่ 10 “บุหรี่กับภัยสุขภาพแห่งชาติ (The WHO Framework Convention Tobacco Control : FCTC) เพื่อสังคมไทยไร้ควันบุหรี่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์วิจัยและการจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และภาคีที่เกี่ยวข้องเมื่อเร็วๆนี้ว่า จากการสำรวจของโครงการสำรวจการสูบบุหรี่ของวัยผู้ใหญ่ระดับโลก (Global Adult Tobacco Survey : GATS) ปี 2552 ในจำนวนผู้สูบบุหรี่ของไทยทั้งหมดที่มีราว 12.5 ล้านคนทั่วประเทศ พบว่า คนดังกล่าวมีความสนใจที่จะเลิกใช้ยาสูบของคนไทยนั้น 7.3% หรือ 912,500 มีแผนที่จะเลิกภายในหนึ่งเดือน 16.1% หรือ 2,012,500 มีแผนที่จะเลิกภายใน 1 ปี 36.0% หรือ 4,500,000 มีแผนที่จะเลิกโดยใช้เวลามากกว่า 1 ปี และไม่สนใจที่จะเลิกและ 4.1% หรือ 512,500 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้สูบบุหรี่มีความสนใจในการเลิกสูบอย่างมาก ขณะที่เมื่อแบ่งสัดส่วนของวิธีการที่ผู้สูบบุหรี่ไทยใช้ในการพยายามที่จะเลิกนั้น พบว่า เลิกด้วยตนเองมีราว 88.9% ใช้ยาช่วย 10.6% ปรึกษา/รับคำแนะนำจากบุคคลากร และศูนย์บริการช่วยเลิกบุหรี่ 5.8% จึงเป็นไปได้ว่า คนส่วนมากมีความต้องการเลิกอย่างจริงจังเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลานาน และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากตัวผู้สูบและตัวบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนนี้เป็นเพราะประชานได้รับความรู้จากการประชาสัมพันธ์ถึงโทษและภัยมีความสำคัญอย่างมากให้การจูงใจให้เลิกบุหรี่

ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการที่ภาคีเครือข่ายสามารถทำให้ผู้สูบบุหรี่สามารถเข้าถึงบริการเลิกบุหรี่ได้ดี ประกอบไปด้วยหลักการสำคัญ 4 ประการ คือ 1 .ต้องทำให้ผู้สูบสนใจที่จะเลิก นั่นคือกระบวนการทำสื่อเพื่อเผยแพร่โทษของบุหรี่ ในทุกด้าน ทั้งผลกระทบด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจและสังคม 2.ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า มีบริการรับปรึกษาและช่วยเหลือให้เลิกบุหรี่ 3.สร้างบริการช่วยเหลือเรื่องการเลิกสูบ ที่มีมาตรฐานให้ผู้สูบเข้าถึงบริการได้ง่ายและสะดวก หรือที่เรียกว่า One Stop Service คือ บริการแบบครบวงจรต่อ 1 หน่วยบริการ เช่น สายด่วนควิทไลน์ 1660 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่คอยบริการต้องมีความพยามยามอย่างมาก ที่จะยัดเยียดข้อมูลแก่ผู้สูบบุหรี่ให้ทราบถึงภัยอันตรายต่อเวลา และสร้างสัมพันธ์ที่ในการให้บริการด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น