“หมอสมาน” เชือดร้านเหล้าย่านเกษตรนวมินทร์ ขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี จนเกิดคดีสลดเยาวชนวัย 17 เสียชีวิต ลุยประสาน สน.บางเขน เอาผิดคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น ด้าน “นพ.พงษ์เทพ” เผย วัยโจ๋แห่รักษาหลังเกิดอุบัติเหตุ ขาหัก พิการ เสียชีวิตเพียบ จี้ ผู้ปกครองควรฟ้องเอาผิดร้านเหล้า ขณะที่ “เยาวชน” แนะจับตา ช่วงสอบเสร็จ กีฬาสี หวั่นเกิดคดีซ้ำซาก
วันนี้ (24 ส.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำผิดกฎหมายขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เยาวชน อายุ 17 ปี เมาเหล้าแล้วขับรถจนเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้จนเสียชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมนิติกรของของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของคดี เพื่อให้ขยายผลไปยังร้านขายเหล้าให้กับเยาวชนรายนี้ เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 29 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่า สามารถเชื่อมโยงไปถึงร้านขายเหล้าได้อย่างแน่นอน เพราะรูปคดีไม่ได้มีความซับซ้อน ประกอบกับเพื่อนของผู้เสียชีวิต ให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์ แถวเกษตรนวมินทร์
นพ.สมาน กล่าวต่อว่า เมื่อมีเหตุการณ์เมาแล้วขับเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะดำเนินคดีในลักษณะเฉพาะหน้า ทำให้มองข้ามสาเหตุที่แท้จริง แต่ก็เห็นใจ เพราะมีกฎหมายที่ต้องบังคับใช้อีกจำนวนมาก และเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดแบบนี้ จึงควรทำให้เป็นคดีตัวอย่างต่อร้านขายเหล้ารายอื่น โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และทำให้เกิดการตื่นตัวกวดขันผู้ประกอบการให้รักษากฎกติกา ตนหวังว่า เหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นบทพิสูจน์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“การขายเหล้าให้กับเยาวชนที่อายุไม่ถึงนั้น ถือเป็นการกระทำที่เรียกว่าคิดสั้น และคงไม่คุ้มค่า หากต้องถูกจับดำเนินคดี ที่สำคัญ ไม่มีโอกาสขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อีก ซึ่งหากดูข้อเท็จจริงจะพบว่ามีร้านค้าอีกจำนวนมากที่ทำผิดกฎหมาย เช่น ผับบาร์ สถานบันเทิงที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาผิดจับกุมอยาก ดังนั้น คดีที่เกิดขึ้นนี้ หวังว่าจะทำเป็นคดีตัวอย่าง ไม่ปล่อยให้เยาวชนต้องเสียชีวิตฟรี หรือผู้ปกครองต้องสูญเสียฟรี และฝากไปยังร้านขายเหล้าให้เห็นแก่ความปลอดภัยของเยาวชนมากกว่ารายได้เพียงเล็กน้อย แต่กลับทำลายผู้ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ” ผอ.สำนักงานฯควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าว
นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กล่าวว่า เฉพาะในเขตเทศบาลเมืองน่าน มีเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เกิดอุบัติจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลมากถึง 25 รายต่อปี ส่วนใหญ่ ขาหัก สมองพิการ เสียชีวิต ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แพทย์ควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการแจ้งข้อมูลต่างๆ รวมถึงผู้ปกครองที่ต้องสูญเสียลูก หรือลูกต้องบาดเจ็บ พิการ ควรจะเข้าแจ้งความ ชี้เบาะแส ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะกฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองเยาวชนอยู่แล้ว
ด้าน น.ส.จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์ รู้ทันแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัญหานี้มีมานานแล้วจนถูกมองเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มันไม่ปกติและเกิดขึ้นกับชีวิตคนที่เป็นเด็กและเยาวชน ในประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญมากกับการปกป้องเด็กและเยาวชน จากอบายมุข เหล้าเบียร์ แต่บ้านเราแม้จะมีกฎหมายแต่ความเอาจริงเอาจัง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีน้อยมาก ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับร้านเหล้ารายนี้ให้ถึงที่สุด ไม่ใช่แค่เสียค่าปรับแล้วปล่อยไป ควรทำให้เป็นตัวอย่าง หากไม่จริงจังในการบังคับใช้กฎหมายข่าวแบบนี้จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดความสูญเสียเหมือนช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ที่ต้องมานั่งนับศพคนเจ็บคนตายจากน้ำเมา
“อยากฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ควรเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ด้วย สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีพอให้กับเด็ก เพราะการศึกษาแบบท่องจำแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ดังนั้น การสอดแทรกเนื้อหาผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะกิจกรรมให้เด็กเยาวชนร่วมสะท้อนปัญหา และมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาด้วยตัวเขาเองน่าจะดีที่สุด ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่คิดให้เสร็จสรรพ สุดท้ายนี้อยากให้กระทรวงช่วยเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในช่วงหลังสอบเสร็จ หรือกีฬาสี เพราะเป็นช่วงที่เด็กและเยาวชนนิยมใช้เป็นโอกาสเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญในสถาบันการศึกษาต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100%” น.ส.จิราภรณ์ กล่าว
วันนี้ (24 ส.ค.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำผิดกฎหมายขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เยาวชน อายุ 17 ปี เมาเหล้าแล้วขับรถจนเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้จนเสียชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมนิติกรของของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของคดี เพื่อให้ขยายผลไปยังร้านขายเหล้าให้กับเยาวชนรายนี้ เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 29 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่า สามารถเชื่อมโยงไปถึงร้านขายเหล้าได้อย่างแน่นอน เพราะรูปคดีไม่ได้มีความซับซ้อน ประกอบกับเพื่อนของผู้เสียชีวิต ให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์ แถวเกษตรนวมินทร์
นพ.สมาน กล่าวต่อว่า เมื่อมีเหตุการณ์เมาแล้วขับเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะดำเนินคดีในลักษณะเฉพาะหน้า ทำให้มองข้ามสาเหตุที่แท้จริง แต่ก็เห็นใจ เพราะมีกฎหมายที่ต้องบังคับใช้อีกจำนวนมาก และเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดแบบนี้ จึงควรทำให้เป็นคดีตัวอย่างต่อร้านขายเหล้ารายอื่น โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ และทำให้เกิดการตื่นตัวกวดขันผู้ประกอบการให้รักษากฎกติกา ตนหวังว่า เหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นบทพิสูจน์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“การขายเหล้าให้กับเยาวชนที่อายุไม่ถึงนั้น ถือเป็นการกระทำที่เรียกว่าคิดสั้น และคงไม่คุ้มค่า หากต้องถูกจับดำเนินคดี ที่สำคัญ ไม่มีโอกาสขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อีก ซึ่งหากดูข้อเท็จจริงจะพบว่ามีร้านค้าอีกจำนวนมากที่ทำผิดกฎหมาย เช่น ผับบาร์ สถานบันเทิงที่ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาผิดจับกุมอยาก ดังนั้น คดีที่เกิดขึ้นนี้ หวังว่าจะทำเป็นคดีตัวอย่าง ไม่ปล่อยให้เยาวชนต้องเสียชีวิตฟรี หรือผู้ปกครองต้องสูญเสียฟรี และฝากไปยังร้านขายเหล้าให้เห็นแก่ความปลอดภัยของเยาวชนมากกว่ารายได้เพียงเล็กน้อย แต่กลับทำลายผู้ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ” ผอ.สำนักงานฯควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าว
นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กล่าวว่า เฉพาะในเขตเทศบาลเมืองน่าน มีเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เกิดอุบัติจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลมากถึง 25 รายต่อปี ส่วนใหญ่ ขาหัก สมองพิการ เสียชีวิต ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แพทย์ควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการแจ้งข้อมูลต่างๆ รวมถึงผู้ปกครองที่ต้องสูญเสียลูก หรือลูกต้องบาดเจ็บ พิการ ควรจะเข้าแจ้งความ ชี้เบาะแส ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะกฎหมายฉบับนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองเยาวชนอยู่แล้ว
ด้าน น.ส.จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์ รู้ทันแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัญหานี้มีมานานแล้วจนถูกมองเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มันไม่ปกติและเกิดขึ้นกับชีวิตคนที่เป็นเด็กและเยาวชน ในประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญมากกับการปกป้องเด็กและเยาวชน จากอบายมุข เหล้าเบียร์ แต่บ้านเราแม้จะมีกฎหมายแต่ความเอาจริงเอาจัง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีน้อยมาก ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับร้านเหล้ารายนี้ให้ถึงที่สุด ไม่ใช่แค่เสียค่าปรับแล้วปล่อยไป ควรทำให้เป็นตัวอย่าง หากไม่จริงจังในการบังคับใช้กฎหมายข่าวแบบนี้จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดความสูญเสียเหมือนช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ที่ต้องมานั่งนับศพคนเจ็บคนตายจากน้ำเมา
“อยากฝากไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ควรเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ด้วย สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีพอให้กับเด็ก เพราะการศึกษาแบบท่องจำแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ดังนั้น การสอดแทรกเนื้อหาผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะกิจกรรมให้เด็กเยาวชนร่วมสะท้อนปัญหา และมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาด้วยตัวเขาเองน่าจะดีที่สุด ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่คิดให้เสร็จสรรพ สุดท้ายนี้อยากให้กระทรวงช่วยเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในช่วงหลังสอบเสร็จ หรือกีฬาสี เพราะเป็นช่วงที่เด็กและเยาวชนนิยมใช้เป็นโอกาสเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญในสถาบันการศึกษาต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100%” น.ส.จิราภรณ์ กล่าว