ปลัด ศธ.ย้ำยุบ กยศ.ไม่ได้ทำในทันที ยังต้องดูแลเด็กในระบบจนจบ และค่อยๆ ยุบ เพียงแต่ยุติการปล่อยกู้รายใหม่ ชี้ หากมองเรื่องสิทธิประโยชน์ กรอ.จะตอบสนองได้กว้างกว่า
นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่หนึ่ง กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ตามที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายให้ปรับกองทุน กยศ.เป็นกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะยุบ กยศ.ในทันที เพราะตอนนี้กฎหมายเดิมยังไม่ได้ยกเลิก เนื่องจากกฎหมาย กรอ.ยังไม่เสร็จ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร แต่จะต้องทำให้ทันปีการศึกษาที่ 1/2555 อีกทั้งยังมีเด็กที่อยู่ในระบบกู้ของ กยศ.อยู่ จึงต้องส่งเด็กเหล่านี้ให้จบโดยค่อยๆ ยุบไป หายไปทีละปีจนกว่าเด็กจะจบ ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นเพียงยุติการให้กู้รายใหม่ ส่วนกรณีลูกหนี้ค้างชำระของ กยศ.ที่ รมว.ศธ.มีนโยบายพักหนี้ คนที่จะถูกฟ้องก็ให้หยุดฟ้อง นั้น คงต้องพิจารณาข้อกฎหมายก่อนว่า จะยุติการฟ้องในทันที หรือต้องฟ้องไปก่อนตามขั้นตอนเพื่อไม่ให้อายุความขาด
“ตอนนี้คงมีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า กองทุน กรอ.จะดีกว่า กยศ.หรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่มองว่าสิทธิประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจะกว้างกว่า เพราะรัฐมีเจตนาว่าหากเด็กแสดงความต้องการกู้มากเท่าใดก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องจัดการให้ โดยไม่คำนึงถึงรายได้ของครอบครัว ไม่ต้องเอารายได้มายุ่งเกี่ยวลูกเศรษฐีก็กู้ได้ กลุ่มเป้าหมายจะมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งปัจจุบัน กยศ.ยังจัดให้ไม่ครบตามที่เด็กแสดงความจำนง เป็นต้น” ปลัด ศธ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกองค์กรหลักได้เตรียมไปสร้างหลักเกณฑ์ทำความเข้าใจกับนักเรียนนักศึกษาแล้ว เพื่อให้สามารถเดินหน้าได้ทันทีเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ เพื่อให้ทันปีการศึกษาที่ 1/2555
นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่หนึ่ง กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ตามที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายให้ปรับกองทุน กยศ.เป็นกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะยุบ กยศ.ในทันที เพราะตอนนี้กฎหมายเดิมยังไม่ได้ยกเลิก เนื่องจากกฎหมาย กรอ.ยังไม่เสร็จ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร แต่จะต้องทำให้ทันปีการศึกษาที่ 1/2555 อีกทั้งยังมีเด็กที่อยู่ในระบบกู้ของ กยศ.อยู่ จึงต้องส่งเด็กเหล่านี้ให้จบโดยค่อยๆ ยุบไป หายไปทีละปีจนกว่าเด็กจะจบ ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นเพียงยุติการให้กู้รายใหม่ ส่วนกรณีลูกหนี้ค้างชำระของ กยศ.ที่ รมว.ศธ.มีนโยบายพักหนี้ คนที่จะถูกฟ้องก็ให้หยุดฟ้อง นั้น คงต้องพิจารณาข้อกฎหมายก่อนว่า จะยุติการฟ้องในทันที หรือต้องฟ้องไปก่อนตามขั้นตอนเพื่อไม่ให้อายุความขาด
“ตอนนี้คงมีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า กองทุน กรอ.จะดีกว่า กยศ.หรือไม่ ผมตอบไม่ได้ แต่มองว่าสิทธิประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจะกว้างกว่า เพราะรัฐมีเจตนาว่าหากเด็กแสดงความต้องการกู้มากเท่าใดก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องจัดการให้ โดยไม่คำนึงถึงรายได้ของครอบครัว ไม่ต้องเอารายได้มายุ่งเกี่ยวลูกเศรษฐีก็กู้ได้ กลุ่มเป้าหมายจะมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งปัจจุบัน กยศ.ยังจัดให้ไม่ครบตามที่เด็กแสดงความจำนง เป็นต้น” ปลัด ศธ.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกองค์กรหลักได้เตรียมไปสร้างหลักเกณฑ์ทำความเข้าใจกับนักเรียนนักศึกษาแล้ว เพื่อให้สามารถเดินหน้าได้ทันทีเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ เพื่อให้ทันปีการศึกษาที่ 1/2555
