xs
xsm
sm
md
lg

ออกมาตรการปิดถาวรสถานศึกษาทะเลาะซ้ำซาก‏

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ
สช.สนองนโยบาย “วรวัจน์” ออกมาตรการปิดตายสถานศึกษาที่ก่อเหตุวิวาทซ้ำซาก ยึดใบอนุญาตจัดตั้ง แต่เปิดช่องให้ขอเปิดใหม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนชื่อ และทีมบริหาร พร้อมเสนอแผนพัฒนาที่ชัดเจน พร้อมนัดรับทราบมาตรการ 26 ส.ค.นี้ และเริ่มใช้ทันทีเมื่อทำหนังสือเวียนแจ้งย้ำอีกครั้ง “ชาญวิทย์” ชี้ ให้โอกาสสถานศึกษาที่ก่อเหตุก่อนหน้าปรับปรุง 2 ครั้ง หากมีครั้งที่ 3 สั่งปิดทันที

นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ตามที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มอบให้ไปหามาตรการการแก้ไขปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาท พร้อมกำชับว่า หากมีสถานศึกษาใดก่อเหตุทะเลาะวิวาทซ้ำซากอีก ให้ใช้มาตรการสั่งปิดโรงเรียนทันที เพราะถือว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่รุนแรง ดังนั้น จึงต้องการให้มีมาตรการที่รุนแรงกว่าเดิม ดังนั้น ตนได้เรียกประชุมผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อหารือร่วมกันและมีมติ หากสถานศึกษาใดที่ปล่อยปละให้นักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทซ้ำซาก จะสั่งปิดสถานศึกษาและยึดใบอนุญาตจัดตั้งจากผู้รับใบอนุญาตทันที

ทั้งนี้ สำหรับแผนหลังสถานศึกษาโดนสั่งปิดแล้ว ก็ให้ย้ายนักศึกษาและอาจารย์ไปเรียนและสอนในสถาบันอาชีวศึกษาอื่นๆ ใกล้เคียงแทน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักศึกษาที่ยังพฤติกรรมเสี่ยงอยู่ สช.ก็จะแยกนักศึกษาเหล่านั้นไปฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นให้ พร้อมทั้งละลายพฤติกรรมไม่ดี และจะสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบใหม่ให้กับเด็ก อย่างไรก็ตาม สช.จะเชิญผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานศึกษามาประชุมวันที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อรับทราบมติดังกล่าวพร้อมกันนี้ จะทำหนังสือเวียนแจ้งมติดังกล่าวไปยังสถาบันอาชีวศึกษาเอกชนทั่วประเทศได้รับอีกครั้ง โดยให้ถือเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน และจะเริ่มใช้ทันที

“อย่างไรก็ตาม กรณีที่สถานศึกษาที่โดนปิดไปแล้วอยากจะขอเปิดใหม่ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ว่าสถานศึกษานั้นต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ มีแผนพัฒนาที่ชัดเจน และต้องไม่มีผู้บริหารสถานศึกษาชุดเดิมอยู่เลย ทั้งนี้ ก่อนหน้า สช.เคยใช้มาตรการลงโทษกับสถานศึกษาที่ปล่อยให้เด็กตีกันแค่ประกาศให้สถานศึกษานั้น งดรับนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษาถัดไปเท่านั้น ทั้งนี้ สำหรับสถาบันที่ก่อเหตุก่อนหน้าและสช.สั่งปิดไปเป็นเวลา 7 วันก่อนหน้านั้น สช.จะให้โอกาสผู้บริหารสถาบันในการแก้ไขปัญหา และปรับปรุงตนเอง 2 ครั้ง แต่หากทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 3 จะสั่งการปิดสถานศึกษาทันที นอกจากนี้ ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาช่วยแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมาตรการการลงโทษที่รุนแรงขึ้นก็ตาม อาทิ การพกพาอาวุธของเด็กที่มีโทษปรับจำนวนน้อย ซึ่งตำรวจก็เจอข้อหานี้บ่อย ทำให้อาจละเลยไปบ้าง” นายชาญวิทย์ กล่าว
 
กำลังโหลดความคิดเห็น