“วรวัจน์” เผย ให้หน่วยงานไปตรวจสอบกรณีนร.ตีกัน ชี้ ร.ร.ที่รู้ว่ามีความบกพร่อง แต่ไม่ดูแลแก้ไขให้ดีขึ้นก็ควรปิด ขณะที่ เลขาธิการ กช.เตรียมชงบอร์ดแก้ไขกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิด เพราะเห็นว่าของเดิมโทษเบาเกินไป
จากกรณีที่นักเรียนโรงเรียนศรีวัฒนาบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีนานาชาติ และ โรงเรียนเทคโนโลยีกรุงเทพ ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนรถเมล์สาย 45 บริเวณถนนสุขุมวิท 64/1 จนเป็นเหตุให้นักเรียนของโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงเทพ ที่โดยสารมาบนรถเมล์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 คน ในจำนวนดังกล่าวบาดเจ็บสาหัส 1 คน และรถเมล์ได้รับความเสียหายทั้งคันนั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ หากโรงเรียนไม่สามารถดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตนเป็นคนดีไม่ได้ ก็ควรจะต้องปิดโรงเรียนไป แต่ในเบื้องต้นนี้คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นก่อน
“โรงเรียนไหนมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ย่อมรู้ว่าตัวเองมีจุดบกพร่อง ซึ่งก็ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ทำ หรือทำแล้วยังเกิดปัญหาขึ้นอีก ก็คงต้องปิดโรงเรียนไป แล้วย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษาแห่งอื่นแทน” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้สั่งปิดโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง เป็นเวลา 7 วัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือเปิดเหตุแก้แค้นกันเกิดขึ้น เพราะแต่ละฝ่ายก็ยังอยู่ในอารมณ์โกรธกันอยู่ นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบมูลเหตุที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน รวมถึงรายชื่อนักเรียนที่ก่อเหตุและให้รายงานผลให้ตนได้ทราบโดยด่วนหลังจากนั้นจึงจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการกับทางโรงเรียนและนักเรียนที่ก่อเหตุอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า กฎหมาย หรือบทลงโทษผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทอ่อนเกินไป ควรมีการปรับแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษกับผู้กระทำความผิดรุนแรงมากขึ้น โดยตนจะเสนอเรื่องนี้ให้คณะกรรมการ กช.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในเดือน ก.ย.นี้
จากกรณีที่นักเรียนโรงเรียนศรีวัฒนาบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีนานาชาติ และ โรงเรียนเทคโนโลยีกรุงเทพ ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบนรถเมล์สาย 45 บริเวณถนนสุขุมวิท 64/1 จนเป็นเหตุให้นักเรียนของโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงเทพ ที่โดยสารมาบนรถเมล์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 คน ในจำนวนดังกล่าวบาดเจ็บสาหัส 1 คน และรถเมล์ได้รับความเสียหายทั้งคันนั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเรื่องนี้แล้ว ทั้งนี้ หากโรงเรียนไม่สามารถดูแลนักเรียนให้ปฏิบัติตนเป็นคนดีไม่ได้ ก็ควรจะต้องปิดโรงเรียนไป แต่ในเบื้องต้นนี้คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นก่อน
“โรงเรียนไหนมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ย่อมรู้ว่าตัวเองมีจุดบกพร่อง ซึ่งก็ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่ทำ หรือทำแล้วยังเกิดปัญหาขึ้นอีก ก็คงต้องปิดโรงเรียนไป แล้วย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษาแห่งอื่นแทน” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้สั่งปิดโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง เป็นเวลา 7 วัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือเปิดเหตุแก้แค้นกันเกิดขึ้น เพราะแต่ละฝ่ายก็ยังอยู่ในอารมณ์โกรธกันอยู่ นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบมูลเหตุที่เกิดขึ้นที่โรงเรียน รวมถึงรายชื่อนักเรียนที่ก่อเหตุและให้รายงานผลให้ตนได้ทราบโดยด่วนหลังจากนั้นจึงจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการกับทางโรงเรียนและนักเรียนที่ก่อเหตุอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า กฎหมาย หรือบทลงโทษผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทอ่อนเกินไป ควรมีการปรับแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษกับผู้กระทำความผิดรุนแรงมากขึ้น โดยตนจะเสนอเรื่องนี้ให้คณะกรรมการ กช.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในเดือน ก.ย.นี้