“สมพงษ์” ติง “วรวัจน์” มองการศึกษาด้านเดียว ขณะที่นโยบายการศึกษาของรัฐบาลมุ่งไปสู่ระบบทุนนิยม แต่ไม่ได้แก้ปัญหาการศึกษาที่ชัดเจน
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาลชุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะประกาศต่อรัฐสภาในวันที่ 23-24 ส.ค.นี้ ว่า นโยบายการศึกษาของรัฐบาล ทั้งโครงการแจกแท็บเล็ต การฟื้นโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) หรือแม้แต่โครงการพักชำระหนี้สินครู ครูคนใดมีหนี้สินไม่เกิน 5 แสนบาท ฯลฯ จะเห็นได้ว่า โครงการส่วนใหญ่เป็นเพียงนโยบายที่นำไปสู่ระบบทุนนิยม การตลาด การมีงานทำ ความทันสมัย การก้าวสู่ประชาคมอาเซียน แต่ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาการศึกษาที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ หากดูเฉพาะตัวนโยบายที่ดูแล้วจะเน้นการใช้งบประมาณที่สูงมาก ไม่แน่ชัดว่า 4 แสนล้านบาทจะเพียงพอหรือไม่ เพราะไม่เห็นถึงกระบวนการที่จะทำให้เกิดผลขึ้น ไม่มีตัวชี้วัด ผลสัมฤทธิ์ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นว่าจะคุ้มทุนที่เสียไปหรือไม่ นอกจากนั้น นโยบายส่วนใหญ่ เป็นการดำเนินการโดยให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นศูนย์กลาง ไม่มีการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน หน่วยงานอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งที่ผลงานวิจัยชี้ชัดว่าการศึกษาไทยที่ล้มเหลวตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เกิดจากการจัดแบบกระทรวงศึกษาธิการเป็นศูนย์กลาง
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า นโยบายด้านการศึกษา ตอนนี้ไม่มีกลไกที่ชัดเจน ไม่มีใครเห็นถึงบทบาทของ นางบุญรื่น ศรีธเรศ และ นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศธ.ว่า จะเข้ามาทำอะไร ขณะเดียวกัน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ.ก็มุ่งวาดฝันอนาคต เน้นบูรณาการเชื่อมโยง แต่ไม่เห็นแนวปฎิบัติ แถมการบูรณาการยังไม่เชื่อมโยงกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ยังมองปัญหาด้านการศึกษาเพียงพอด้านเดียว ซึ่งเรื่องนี้ ทาง รมว.ศธ ควรมีทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยผลักดัน ให้คำแนะนำในการพัฒนาการศึกษา เพราะเท่าที่ทราบรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน เตรียมตัวมาดี แต่ไม่มีความมั่นใจ ไม่ได้ศึกษารายละเอียดของการศึกษาอย่างชัดเจน ทำให้นโยบายที่จะดำเนินการไม่เห็นเป็นรูปธรรม หรือมีแนวทางในการแก้ปัญหาการศึกษาได้ ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับฟังข้อมูล องค์ความรู้ด้านการศึกษาทุกด้านจะช่วยให้เข้าใจการศึกษา และแก้ปัญหาได้ถูกต้องมากขึ้น
“สิ่งที่ผมเป็นห่วง คือ ถ้าคนที่เข้ามาวางนโยบายไม่เข้าใจการศึกษาอย่างแท้จริง จะส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษา ทำให้การศึกษาไทยหลงทาง เช่น การโละทิ้งโครงการครูพันธุ์ใหม่ ทั้งที่ครู กระบวนการผลิตครู ถือเป็นสารสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาทั้งหมด ซึ่งหาก ศธ.โละทิ้งโครงการนี้จริงๆ เชื่อว่า การศึกษาไทยล้มเหลวกว่าที่เป็นอยู่ เพราะระบบการศึกษาจะดีได้ ต้องมีครูที่ดี ไม่ใช่อยู่ที่เทคโนโลยี ดังนั้น จึงอยากให้ทบทวนโครงการครูพันธุ์ใหม่อีกครั้ง” รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว