อย.จับร้านยาเถื่อน 6 แห่ง ใน “อุดรธานี” มูลค่าของกลาง 1 แสนบาท เตือนร้านใดมีเภสัชกรประจำแล้วทำผิดกฎหมาย ระวังถูกสั่งพักใบอนุญาตฯ ประกอบวิชาชีพฯ เผยพบเจ้าหน้าที่ สสจ.อุดรฯ ถูกทำร้าย ตำรวจคาด เกี่ยวข้องกับการจับกุมร้านขายยาผิด กม.
วันนี้ (18 ส.ค.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการจับกุมร้านขายยาผิดกฎหมาย จ.อุดรธานี มูลค่าของกลาง 1 แสนบาท
นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา อย.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ปคบ. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุดรธานี ออกตรวจสอบร้านขายยาที่กระทำผิดกฎหมายในจังหวัดอุดรธานีจำนวน 6 แห่ง ไประกอบด้วย 1.ร้านรุ่งเรืองเภสัช เลขที่ 102/7 หมู่ 4 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 2.ร้านเอสอายซัพพลาย เลขที่ 337/5-6 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 3.ร้านสมศักดิ์ CS คอมเพล็กซ์ เลขที่ 277/1-3 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 4.ร้านขายยาบ้านโนนฟาร์มาซี เลขที่ 28/115 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 5.ร้านรุ่งโรจน์ 2 เลขที่ 106/26 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 6.ร้านไข่ เลขที่ 106/25 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
นพ.พิพัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับการกระทำความผิดขิองร้านดังกล่าวนั้น พบมีการจำหน่ายยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวดเกร็ง ยาลดความอ้วน ยาแก้ไอซูโดเอฟริดีน และวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาท รวมมูลค่าสินค้ากว่า 1 แสนบาท ซึ่งร้านดังกล่าวไม่มีทะเบียนอนุญาตให้จำหน่ายยา และยาต่างๆ ที่พบก็เป็นยาปลอมซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยากับ อย.เช่นกัน ขณะที่สถานการณ์ร้านขายยาผิดกฎหมายในเขต กทม.ยังพบเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยภายใน 1 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจและ อย.มีการรวบรวมของกลางที่จำหน่ายในร้านมีมูลค่าราว 30 ล้านบาท
เลขาธิการ อย.กล่าวด้วยว่า แต่ละร้านมีความผิดในข้อหาที่แตกต่างกัน เบื้องต้นประมวลสรุปได้ดังนี้ 1. ขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ มีโทษปรับ 2,000-10,000 บาท 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท 3.ขายยาอันตรายขณะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ มีโทษปรับ 1,000-5,000 บาท 4.ขายยาไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 5.ฉลากที่ภาชนะและหีบห่อบรรจุยาแสดงข้อความไม่ครบถ้วน มีโทษปรับ 2,000-10,000 บาท
6.ไม่จัดทำบัญชีซื้อและบัญชีขายยา มีโทษปรับ 2,000-10,000 บาท 7.ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่ควบคุมการจัดทำบัญชียา มีโทษปรับ 1,000-5,000 บาท 8.ขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 3 หรือ 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท 9.ขายยาบรรจุเสร็จหลายขนานโดยจัดเป็นชุดๆ ในคราวเดียวกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 10. ขายยาหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ หากร้านขายยาเปิดแล้วมีเภสัชกรประจำร้านอยู่ แล้วมีการทำผิดกฎหมาย ทาง อย.ก็จะทำหนังสือขอให้สภาเภสัชกรรมสั่งพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วย
“นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า มีเภสัชกรชำนาญการประจำ สสจ.อุดรฯ ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ โดยผู้ร้ายได้โทรศัพท์เข้าข่มขู่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวด้วย เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับกรณีการจับกุมร้านขายยาผิดกฎหมาย ดังนั้น ทาง อย.จึงได้แจ้งขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ในการติดตามหาผู้ต้องสงสัยในคดีทำร้ายร่างกาย เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวให้นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) ได้รับทราบด้วย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับและสั่งการให้สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานีดำเนินการสืบสวนอย่างเร่งรัดโดยเร็วที่สุดเพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย