ใช้ กม.แรงแก้ช้างเร่ร่อน กทม.

กทม.จับมือ จ.นนทบุรี จับช้างเร่ร่อนที่มาหากินใน กทม.ใช้กฎหมายลงโทษแรง ส่งสถานกักตรวจโรค จ.กาญจนบุรี 30 วัน พร้อมร่วมมือกับจังหวัดปริมณฑลแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย น.สพ.สมชัย คอวณิชกิจ ปศุสัตว์จังหวัดนนทบุรี เข้าจับกุมควาญช้างที่บริเวณถนนราชพฤกษ์ วงเวียนพระราม 5 จ.นนทบุรี ซึ่งควาญได้นำช้างมาเร่ร่อนหากินในพื้นที่ของ กทม.โดยสามารถจับควาญช้างได้ 3 คน พร้อมกับช้างอีก 3 เชือก เป็นช้างเพศเมีย 2 เชือก ชื่อ ดุ่ยดุ๋ย อายุ 8 ปี และ โก่งก้านกล้วย อายุ 7 ปี และเพศผู้อีก 1 เชือก ชื่อ ผู้ทราย อายุ 3 ปี ทั้งหมดมาจาก จ.บุรีรัมย์ ควาญช้างทั้งสามจะถูกดำเนินคดีข้อหาเคลื่อนย้ายช้างข้ามจังหวัดโดยไม่มีใบอนุญาต และช้างทั้งสามเชือกถูกนำไปกักตัวตรวจโรคที่ จ.กาญจนบุรี เป็นเวลา 30 วัน

นายธีระชน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ กทม.ส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาร่วมจับกุมควาญช้างเร่ร่อนต่างจังหวัด หลังจากที่ กทม.ดำเนินการจับกุมและจับปรับอย่างจริงจัง ทำให้ในพื้นที่ กทม.ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่มีช้างเร่ร่อน แต่หลังกระแสข่าวเริ่มเงียบ ทำให้ควาญช้างเริ่มนำช้างกลับมาหากินใน กทม.อีกครั้ง แต่จะมาในรูปแบบนำช้างไปอาศัยตามปริมณฑล ทั้งนนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี และ นครปฐม และนำช้างใส่รถกระบะมาในพื้นที่ กทม.ช่วงค่ำ ทั้งนี้ ในหลายจังหวัดปริมณฑลส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องการลงโทษ และการจับปรับที่อาจไม่รุนแรงพอ จึงได้ประสานไปยังจังหวัดต่างๆ ร่วมแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อน โดยจะใช้ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ที่มีโทษรุนแรงปรับ 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนช้างจะส่งไปกักตรวจโรคที่กาญจนบุรีทันที 30 วัน ทำให้เสียรายได้เป็นจำนวนมาก โดย กทม.จะดูแลค่าใช้จ่ายในการส่งช้างไปกักตรวจโรคให้ นอกจากจังหวัดปริมณฑลที่มีปัญหา