xs
xsm
sm
md
lg

ประณาม บ.เหล้ายัด 17 ล.เลี่ยงภาษี จี้ ป.ป.ช.-ดีเอสไอ เปิดชื่อคนรับส่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เครือข่ายต้านเหล้า” บุกประณามบิ๊กน้ำเมาข้ามชาติ กรณีจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่ไทย 17 ล้านบาท พร้อมทวงถามความรับผิดชอบ หลังถูกจับฐานแสดงรายการเท็จเลี่ยงภาษีแบล็ค-เรดเลเบิ้ล 45,000 ลัง จี้ ป.ป.ช.-ดีเอสไอ กระชากหน้ากากให้ประชาชนรับรู้  ใช้กฎเหล็กขั้นสูงสุดลงโทษ  เพื่อกำราบนักการเมืองเอาเยี่ยงอย่าง

            วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ กรุงเทพฯ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่  กว่า 100 คน  เดินทางมาประท้วงที่บริเวณด้านหน้าบริษัท ดิอาจิโอ ฯ เรียกร้องความรับผิดชอบ กรณีให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ไทย  รวมถึงการเลี่ยงภาษีเหล้าแบล็ค- เรดเลเบิ้ล จำนวน 45,000 ลัง

 ทั้งนี้ เครือข่ายร่วมกันประณามด้วยการนำดอกไม้จันทน์เพื่อฌาปนกิจตราสัญลักษณ์ของสุราต่างประเทศยี่ห้อดังกล่าว และหลังจากนั้น เวลา 13.30 น.ทาง บริษัท ดิอาจิโอฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มารับข้อเรียกร้องจากทางเครือข่าย เพื่อนำไปให้ผู้บริหารพิจารณาต่อไป

            นายจะเด็จ   เชาวน์วิไล   ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  กล่าวว่า  จากกรณีที่ บริษัท ดิอาจิโอฯ ผลิตสุรายี่ห้อจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ยอมจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีละเมิดกฎหมายว่าด้วยการกระทำทุจริตในต่างประเทศ  โดยผู้บริหารของบริษัท ดิอาจิโอฯ ยอมรับว่า ได้จ่ายเงินสินบนจำนวนเงิน 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 357,000 บาทต่อเดือน หรือ 17,136,000 ล้านบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการไทยอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี 2004-2008 ผ่านทางบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่ง เพื่อให้ช่วยล็อบบี้ในเรื่องภาษีและข้อพิพาทด้านศุลกากร นอกจากนี้ ยังพบการกระทำผิดของบริษัท ดิอาจิโอฯ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ดิอาจิโอ พีแอลซี ที่แสดงรายการเท็จเพื่อเลี่ยงภาษีนำเข้าสุรายี่ห้อ แบล็ค-เรดเลเบิ้ล กว่า 45,000 ลัง ตั้งแต่ต้นปี 2546  ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับไปทำเป็นคดีพิเศษ  ต่อมาบริษัท ดิอาจิโอฯ ได้ทำหนังสือตกลงขอระงับคดี ยอมจ่ายเงิน 1,500 ล้านบาท จากนั้นเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาเปรียบเทียบปรับ กรมศุลกากร มีมติให้จ่ายค่าปรับ 2 เท่า คิดเป็นวงเงิน 3,000 ล้านบาท   ล่าสุด ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากบริษัทนี้ว่าจะเอาอย่างไรกับมติของคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ กรมศุลกากร   

             “จากกรณีการทำผิดดังกล่าว ภาคประชาชนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงอยากให้บริษัทที่ทำธุรกิจข้ามชาติรายนี้ ปฏิบัติตามกฎหมายและยอมรับเงื่อนไข การเสียภาษีของไทยอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้วิธีหลบเลี่ยงหรือติดสินบน   เพราะหากยังทำแบบนี้อยู่ จะถือว่าเอาเปรียบบริษัทอื่นที่เขาจ่ายภาษีตามกฎหมาย รวมทั้งยังดูถูกประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นเครื่องมือเพื่อหาผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนจะติดตามและเฝ้าระวัง ตรวจสอบการกระทำผิดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน  เครือข่ายเชื่อว่าสิ่งที่บริษัทน้ำเมาข้ามชาติรายนี้ต้องการได้จากประเทศไทย มีอยู่ 3 กรณีด้วยกันคือ การเปลี่ยนแปลงระบบภาษีให้เก็บตามปริมาณดีกรีเพียงอย่างเดียว    การให้ความช่วยเหลือกรณีถูกจับในการสำแดงรายการเท็จ   และการผลักให้ประเทศไทยเร่งเปิดเจรจาการค้าเสรีที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ภาษีศุลกากรน้ำเมาข้ามชาติเป็น 0%  ซึ่งทั้งหมดนี้เขาจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล   ฝ่ายไทยจึงไม่ควรตกเป็นเครื่องมือทุนข้ามชาติรายนี้อีกต่อไป” นายจะเด็จ  กล่าว

            ขณะที่ นายนรินทร์  แป้นประเสริฐ  ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพฯ   กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการซ้ำเติมประเทศไทยอย่างร้ายแรง หนำซ้ำข้อมูลล่าสุด ยังพบว่า ประเทศไทยติดอันดับการคอรัปชั่นมากเป็นลำดับที่ 78 ของโลก ดังนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่เร่งเปิดโปงรายชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่รับสินบนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและนำมาลงโทษให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง   นอกจากนี้ เราขอประณาม บริษัทดิอาจิโอฯและบริษัทลูกในประเทศไทยที่ทำการตลาดโดยขาดธรรมาภิบาล มุ่งหาประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและความถูกต้อง   

 นายนรินทร์   กล่าวต่อว่า เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องดังนี้  1.ขอให้บริษัท ดิอาจิโอฯ แสดงความรับผิดชอบและขอโทษคนไทยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น  2.ยุติการแทรกแซง ระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตของไทย เพราะระบบปัจจุบัน คือ สองเลือกหนึ่ง (คิดจากทั้งปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เปรียบเทียบกับที่คิดจากราคา  และเลือกเก็บจากที่ได้ภาษีสูงสุด) ถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์สูงสุด  นอกจากนี้ ควรหยุดกดดัน  แทรกแซงรัฐบาลไทยให้เร่งเปิดเจรจาการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะกรณี ไทย กับสหภาพยุโรป   3.ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เร่งตรวจสอบ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้รับสินบนจากบริษัท ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด และ 4.ขอให้รัฐบาลไทยยุติความพยายามที่เอื้อประโยชน์กับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกกรณี เพราะอาจถูกมองว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์  หรือทำตามใบสั่งทุนน้ำเมาข้ามชาติได้
กำลังโหลดความคิดเห็น