“เผดิมชัย” เผย เล็งปรับค่าจ้าง 300 บ.ผ่านระบบไตรภาคี ในพื้นที่ที่ทำได้ก่อน แล้วค่อยปรับเท่ากันทั้ง ปท.ประกาศมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน เดินหน้านโยบายเงินเดือน ป.ตรี 1.5 หมื่นทันที ยันไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่อยู่บนพื้นฐานความจริง พร้อมถกทุกฝ่ายเพื่อให้นายจ้าง-ลูกจ้าง ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ได้
วันนี้ (10 ส.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) เปิดเผยว่า ตนจะเดินหน้าผลักดันนโยบายด้านแรงงานของพรรคเพื่อไทย (พท.) ตามที่ได้ประกาศหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมทันที เช่น นโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ปรับเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีรุ่นใหม่เป็น 1.5 หมื่นบาท ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะนำไปบรรจุไว้ในร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาด้วยเร็วๆ นี้ด้วย ทั้งนี้ ขอยืนยันนโยบายของพรรค พท.ไม่ใช่เรื่องของประชานิยม แต่เป็นนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง โดยเฉพาะปัจจุบันค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น แรงงานทุกคนและบัณฑิตจบใหม่ควรได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับการทำงาน สามารถเลี้ยงดูครอบครัวและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานทั่วประเทศให้ดีขึ้น จะทำให้สังคมไทยมีความสุขมากขึ้น
รมว.รง.กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันนั้น ทาง พท.ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ และมีข้อมูลของฝ่ายต่างๆ ทั้งนายจ้างและลูกจ้างอยู่แล้ว ซึ่งจากข้อมูลของฝ่ายต่างๆ ก็สะท้อนว่า ทุกวันนี้แรงงานได้รับค่าจ้างไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ ดังนั้น หลังจากเข้ามาทำงานที่กระทรวงแรงงาน จะเชิญทุกฝ่ายทั้งนายจ้างและลูกจ้าง มาหารือกันโดยการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน จะดำเนินการผ่านคณะกรรมการระบบไตรภาคีที่มีทั้งฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้างร่วมกันพิจารณา เพื่อให้การปรับค่าจ้างมีความสมดุลและเป็นไปได้ ทำให้ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างสามารถอยู่ได้
นายเผดิมชัย กล่าวต่อไปว่า อยากให้ทุกฝ่ายของสังคม รวมถึงฝ่ายนายจ้างอย่าไปมองแต่เรื่องของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว อยากให้มองว่า การปรับขึ้นค่าขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน เป็นเรื่องที่อยู่บนพื้นฐานความจริงของสังคม เป็นการให้โอกาสแก่แรงงานได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับการทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งเรื่องของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น ตนพร้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และข้อมูลจากทุกฝ่าย จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาโดยหารือกับทุกฝ่ายเพื่อให้ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างสามารถอยู่ได้ แต่ทั้งตัวผม ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ต้องสะอาด นำเอาข้อมูลทั้งหมดมาคุยกันอย่างเปิดเผย ไม่มีการหมกเม็ดข้อมูลเอาไว้
“การดำเนินการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทนั้น เบื้องต้นคาดว่า จะเริ่มต้นในพื้นที่ที่เริ่มทำได้ก่อน แต่ในที่สุดแล้วจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นระบบเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อให้แรงงานไทยทุกคนได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” นายเผดิมชัย กล่าว
รมว.รง.กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ยังมีนโยบายส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้ต้องหาในเรือนจำต่างๆ โดยจะขอให้กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงแรงงานร่วมกันมือจัดอบรมอาชีพให้แก่ผู้ต้องหาในเรือนจำ เพื่อที่เมื่อพ้นโทษแล้ว คนกลุ่มนี้จะได้มีงานทำ และมีรายได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ อีกทั้งจะขอความร่วมมือสถานประกอบการต่างๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ร่วมกันสนับสนุนในการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กของ อปท.แต่ละพื้นที่ เพื่อให้ลูกหลานของแรงงานได้รับการดูแลที่ดีและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสถานประกอบการต่างๆ สามารถนำเงินสนับสนุนดังกล่าวมาขอลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า รวมทั้งจะพัฒนาระบบประกันสังคมโดยจะดำเนินการในสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งจะต้องศึกษารายละเอียดเรื่องระบบประกันสังคมต่อไป ทั้งนี้ จะเข้ามาเริ่มทำงานที่กระทรวงแรงงานในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.