อย.ยึดบทเรียน ยาทาเล็บปลอม เร่งเข้มงวด การเฝ้าระวังสถานเสริมความงาม โรงเรียนสอนเสริมสวย เพิ่ม ชี้ หลัง 14 ก.ย.มั่นใจขึ้น เหตุอย.บังคับฉลากเครื่องสำอางทุกชนิดต้องมีเลขจดแจ้ง จาก อย.
หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) บุกจับโรงเรียนสอนต่อเล็บ 2 แห่ง ย่านลาดพร้าว และสามเสน โดยพบว่า มีการปลอมสินค้า ทั้งยาทาเล็บ และผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บ นั้น ล่าสุด วานนี้ (9 ส.ค.) ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย) กล่าวว่า หลังจากที่มีการจับกุมกรณียาทาเล็บ นั้น ขณะนี้ อย.ไม่ได้นิ่งเฉยกับสถานการณ์ แต่ยังคงเฝ้าระวังสถานเสริมความงาม โรงเรียนสอนเสริมสวย และคลินิกที่เกี่ยวข้องกับความงาม เป็นพิเศษ หลังพบกระแสเรื่องของการนำเข้าเครื่องสำอางปลอมเข้ามาใช้มากมาย โดยหากได้รับแจ้งเข้ามาผ่านสายด่วน 1556 ก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งหลังจากวันที่ 14 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นวันกำหนดให้มีการบังคับใช้ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง “ฉลากของเครื่องสำอาง” ระบุว่า ต้องมีเลขที่ใบจดแจ้ง อย่างเป็นทางการก็จะทำให้การดำเนินงานของ อย.ง่ายขึ้น เพราะสามารถนำเลขที่ใบจดแจ้งไปค้นหาข้อมูลได้ว่า ผ่านการอนุญาตจาก อย.หรือไม่ ซึ่งหากผู้ประกอบการนำเข้ารายใดฝ่าฝืนจะมีโทษตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 คือ ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภญ.ศรีนวล กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการแสดงรายละเอียดนั้น กำหนดให้เครื่องสำอางทุกชนิด ต้องมีเลขที่ใบจดแจ้งบนฉลากด้วย นอกเหนือจากเดิมที่มีเพียงชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ประเภท หรือชนิดของเครื่องสำอาง ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง วิธีใช้เครื่องสำอาง ชื่อ และที่ตั้งของผู้ผลิต ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต ปริมาณสุทธิ เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต เดือน ปีที่ผลิต เดือน ปีที่หมดอายุ และคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่ออนามัยของบุคคล (ถ้ามี) ซึ่งการที่มีเลขที่จดแจ้ง จะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจและตรวจสอบได้ว่าของจริง หรือของปลอม