สสส.หนุนมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ผนึก ศอ.บต.เสริม “เด็ก-เยาวชน” ชายแดนภาคใต้ มีจิตอาสา ชี้ เด็กร้อยละ 90 ติดยาตกเป็นเหยื่อกลุ่มก่อการร้าย แนะรัฐบาลใช้พลังเยาวชน ขับเคลื่อนแก้เหตุรุนแรง
ดร.รุ่ง แก้วแดง ประธานมูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาองค์กรเยาวชนจิตสาธารณะระดับตำบลชายแดนใต้ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายพัฒนาเยาวชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) เสริมความเข้มแข็งองค์กรเยาวชน ปลุกกระแสพลังบวกในด้านจิตสาธารณะ และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ โจทย์สำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชนภาคใต้ ต้องเปลี่ยนมุมมอง ซึ่งหลายหน่วยงานมองเยาวชนในด้านลบ หรือเป็นตัวปัญหาในพื้นที่ เนื่องด้วยเยาวชนที่มีการศึกษาน้อย ไม่เรียนหนังสือ ยากจน ว่างงาน ไม่มีรายได้ เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงติดยาเสพติด โดยเฉพาะ 4x100 และถูกใช้เป็นเครื่องมือหรือแนวร่วมในการก่อความรุนแรง
มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง เล็งเห็นว่า เยาวชนภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นคนดี มีความต้องการที่จะพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ จึงปลุกกระแสพลังบวกของเยาวชน โดยจัดตั้งเป็นองค์กรเยาวชนระดับตำบล เป็นสื่อสำคัญในการส่งเสริมจิตสาธารณะ และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาศักยภาพ ด้านการบริหารจัดการให้แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น ปี 2554 ร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) เน้นแก้ปัญหาสำคัญด้านการส่งเสริมอาชีพ การช่วยเหลือเด็กกำพร้า เลิกค่านิยมเรื่องบุหรี่ และยาเสพติด ให้แก่เยาวชนใน 251 ตำบล และ 16 เทศบาลของพื้นที่ชายแดนใต้ โดยผ่านการสร้างความร่วมมือของวิทยาลัยอาชีวศึกษาและกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
“การแก้ปัญหาภาคใต้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลชุดใหม่ ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเยาวชนที่อยู่นอกระบบโรงเรียน เพราะอยากให้เด็กนอกระบบโรงเรียนได้พัฒนา เรียนรู้อย่างง่าย เน้นการทำกิจกรรมจิตอาสา เพื่อนำไปต่อยอดที่จะชักจูงเยาวชนในพื้นที่ต่างๆ เข้ามาเป็นเครือข่ายในการทำกิจกรรมจิตสาธารณะร่วมกัน ทั้งนี้ เป็นการดึงเด็กออกจากพื้นที่เสี่ยงในการตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่สำคัญเยาวชนกว่าร้อยละ 90 ติดยาเสพติด และมักจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการไล่จับ ซึ่งมันไม่ได้ผล ดังนั้น ต้องมีกระบวนการสร้างความเข้าใจ และเลิกค่านิยมเรื่องบุหรี่ ยาเสพติด พร้อมทั้งจัดสถานที่ให้เยาวชนเหล่านี้ได้มีที่ออกกำลังกาย ทำกิจกรรม ซึ่งท้ายที่สุดเยาวชนกลุ่มนี้จะกลับมาสู่ชุมชน จึงถือเป็นนโยบายชิ้นใหญ่ที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการมาบริหารประเทศต่อไป” ดร.รุ่ง กล่าว