เปิดใจครูเพ็ญ “หน้าที่ครูไม่แยกสังกัด”
แนะปรับลุคส์ทันสมัยโดนใจเด็ก
เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ
“หน้าที่ของความเป็น “ครู” ไม่ได้ถูกแบ่งแยกไปตามสังกัดความเป็นรัฐบาล หรือเอกชน เพราะทั้งในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน ครู มีหน้าที่สำคัญในการสอนหนังสือ ให้ความรู้นักเรียน แม้การทำงานตลอดระยะเวลา 10 ปีจะทำหน้าที่สอนโรงเรียนเอกชนมาโดยตลอด และเพิ่งได้รับบรรจุตำแหน่งครูผู้ช่วย สอนภาษาไทยในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ที่โรงเรียนท่าตะโกพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนโครงการ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนในฝัน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกถึงการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม แม้จะมีการบ้านชิ้นใหญ่ เรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนภาษาไทยของนักเรียนให้ดีขึ้นรออยู่ก็ตาม” ความในใจของ นางวันเพ็ญ ลิ้มวรรธนะ หรือครูเพ็ญ ร.ร.ท่าตะโกพิทยาคม จ.นครสวรรค์
จากประสบการณ์การสอนภาษาไทยที่ผ่านมาทั้งในต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ ครูเพ็ญ เล่าว่า ต้องยอมรับว่าเด็กส่วนใหญ่ให้ความสนใจน้อยมาก จุดนี้ครูมองว่าเพราะเด็กรู้สึกว่าเขาพูดภาษาไทยได้มาตั้งแต่เกิด ทำให้พอเวลาเรียนจึงไม่ได้ให้ความสำคัญ และมุ่งที่จะไปเน้นการเรียนทางด้านคณิต วิทย์ หรือภาษามากกว่า ยกเว้นเด็ก ม. 6 กลุ่มนี้จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษเพราะเขาจะต้องมีความรู้ไปใช้ในการสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ในขณะที่ภาษาไทยเป็นหนึ่งในวิชาหลักที่ทุกคนต้องเรียน แต่หากดูผลสัมฤทธิ์ของการประเมิน ในภาพรวมของประเทศผลอาจจะยังไม่น่าพอใจนัก แม้ว่าในส่วนของเด็กที่เคยสอนผลสัมฤทธิ์จะค่อนข้างดี แต่เราก็ไม่ประมาทเพราะความจริง เรายังพบปัญหาเด็กอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่องสะกดคำผิดโดยเฉพาะคำยาก ๆ อยู่ ซึ่งจุดนี้ครูผู้สอนจะต้องมีหน้าที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาเราต้องจะพัฒนาตนเอง หาเทคนิคการสอนใหม่จากการศึกษาดูงานและนำมาประยุกต์เพื่อสอนนักเรียนเป็นการดึงดูดความสนใจผู้เรียน
ครูเพ็ญ สะท้อนมุมมองด้วยว่า การพัฒนาความรู้ของครูเพื่อนำไปถ่ายทอดสู่นักเรียนเป็นเรื่องสำคัญมาก อีกสิ่งที่ครูยุคใหม่ต้องใส่ใจไม่แพ้กันนั่น คือ บุคลิกภาพของครู ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกของนักเรียนที่มีต่อเราในครั้งแรกที่เจอค่อนข้างมาก อีกทั้งเด็กจะจำเราเป็นแบบอย่าง ขณะเดียวกันเด็กเองก็จะเป็นกระจกสะท้อนตัวครู เพราะเขาจะคอยสังเกตว่าเรามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เรียกว่ามองตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะฉะนั้น เราสลัดภาพครูยุคเก่าถือไม้เรียว ถือของพะรุงพะรังแบบนั้นทิ้งไป แต่มีบุคลิกที่ทันยุคทันสมัย ยิ้มแย้มให้เด็กรู้สึกว่าเราไม่น่ากลัว ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่เวลาเราสอนหนังสือเด็กก็จะไม่กลัวและให้ความร่วมมือสนใจการเรียน
เมื่อเด็กรู้สึกคุ้นเคยกับเรา เวลาทำการสอนก็จะง่ายขึ้นการแก้ไขจุดอ่อนในการเรียน โดยเฉพาะปัญหาที่พบมากที่สุดคือ เรื่องทักษะการพูด การอ่าน การเขียน และการสะกดคำ อีกทั้งปัจจุบันต้องยอมรับว่าเด็กใช้เวลาไปกับโลกออนไลน์มาก และติดการเขียนศัพท์แบบวัยรุ่นซึ่งไม่ถูกต้อง มีการพูดคุยทางอินเทอร์เน็ตแล้วจะใช้คำศัพท์ หรือสะกดคำแบบวัยรุ่นในการสื่อสาร ซึ่งเวลามาเรียนในทางวิชาการก็จะเห็นว่าเด็กติดเอาคำเหล่านี้มาใช้ค่อนข้างเยอะ ทั้งนี้ ส่วนตัวจะเน้นไปทำแผนการสอนกำหนดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้เหมาะสมกับระดับที่สอน อาจจะต้องนำสื่อเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประกอบด้วย แต่ว่าจะไม่นำมาใช้เป็นหลักเพราะมองว่าการเรียนภาษาไทยการใช้ใบงาน แบบฝึกจะเหมาะสมกัน หรือบางครั้งก็อาศัยเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นมาเชื่อมโยง เช่น สอนคำสแลง ก็จะยกตัวอย่างคำที่เราพูดกันในอดีต และให้เด็กแลกเปลี่ยนบอกคำสแลงที่เด็กนิยมใช้ เป็นต้น
ครูเพ็ญ กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ว่าวันนี้จะเป็นเพียงครูผู้ช่วยก็จะทำหน้าที่ดังกล่าวนี้อย่างเต็มที่เพื่อดูแลนักเรียนที่ ร.ร.ท่าตะโกแห่งนี้ให้มีความรู้ มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสร้างจิตสำนึกในความเป็นคนไทยให้แก่นักเรียน ให้เขาภาคภูมิใจในความเป็นไทย
