สมาพันธ์อาชีวะยื่น 4 ข้อเสนอถึงปู “ธีรพัฒน์” เผย ผู้แทน พท.รับปากดูแลปัญหาการโยกย้ายที่เป็นธรรม และดูแลเรื่องวิทยฐานะ ขณะที่ ประธานบอร์ดอาชีวะ ฝากเร่งจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาแต่ไม่ใช่การตั้งสถาบันเฉพาะทางที่ยกฐานะวิทยาลัยขึ้นเหมือนที่ผ่านมา
นายธีรพัฒน์ คำคูบอน รองประธานสมาพันธ์เครือข่ายอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดถึงผลการประชุมของผู้แทนเครือข่ายสมาพันธ์ฯ 4 ภาค เพื่อหาข้อสรุปการพัฒนาการอาชีวศึกษาเสนอต่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมยื่นข้อเสนอ จำนวน 4 ข้อ ได้แก่ 1.การผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 2.การใช้จ่ายงบประมาณด้านการอาชีวศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 3.การกระจายอำนาจการบริหารงานให้สถานศึกษาเป็นผู้ตัดสินใจ และ 4.การบริหารงานบุคคล
อย่างไรก็ตาม เฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทางเครือข่ายได้ขอให้พิจารณาบุคคลที่มีความเข้าใจการอาชีวศึกษาเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาการบริหารจัดการอีก และเกิดความเป็นธรรม ซึ่งผู้แทนพรรคเพื่อไทยได้รับปากที่จะดูแลให้รวมถึงเรื่องการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาที่จะต้องเร่งดำเนินการทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ในการไปยื่นหนังสือต่อพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการแจ้งเรื่องนี้ด้วยวาจาไปด้วย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็ยินดีพร้อมรับปากที่จะดูแลให้เป็นไปตามความต้องการของชาวอาชีวศึกษา ที่สำคัญยังรับที่จะดูแลเรื่องเงินวิทยฐานะ
ด้าน ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งผลักดันการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา แต่ไม่ใช่เป็นการตั้งสถาบันแบบเฉพาะทางโดยยกฐานะวิทยาลัยเดียวขึ้นมา เพราะจะเกิดความเสียหายต่อประเทศ และไม่สอดคล้องกับความเห็นของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับการยกฐานะวิทยาลัยแห่งเดียวขึ้นมาเปิดสอนในระดับปริญญาตรี เพราะจะทำให้วิทยาลัยอื่นๆ ยกฐานะตามขึ้นมา ทำให้มีอธิการบดี 415 คน นายกสภาสถาบัน 415 คน คณบดี และหัวหน้าภาคอีกหลายพันคน ซึ่งส่งผลต่องบประมาณของประเทศอย่างมาก
นายธีรพัฒน์ คำคูบอน รองประธานสมาพันธ์เครือข่ายอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดถึงผลการประชุมของผู้แทนเครือข่ายสมาพันธ์ฯ 4 ภาค เพื่อหาข้อสรุปการพัฒนาการอาชีวศึกษาเสนอต่อกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมยื่นข้อเสนอ จำนวน 4 ข้อ ได้แก่ 1.การผลักดันให้มีการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 2.การใช้จ่ายงบประมาณด้านการอาชีวศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 3.การกระจายอำนาจการบริหารงานให้สถานศึกษาเป็นผู้ตัดสินใจ และ 4.การบริหารงานบุคคล
อย่างไรก็ตาม เฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทางเครือข่ายได้ขอให้พิจารณาบุคคลที่มีความเข้าใจการอาชีวศึกษาเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาการบริหารจัดการอีก และเกิดความเป็นธรรม ซึ่งผู้แทนพรรคเพื่อไทยได้รับปากที่จะดูแลให้รวมถึงเรื่องการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาที่จะต้องเร่งดำเนินการทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ในการไปยื่นหนังสือต่อพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการแจ้งเรื่องนี้ด้วยวาจาไปด้วย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็ยินดีพร้อมรับปากที่จะดูแลให้เป็นไปตามความต้องการของชาวอาชีวศึกษา ที่สำคัญยังรับที่จะดูแลเรื่องเงินวิทยฐานะ
ด้าน ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งผลักดันการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา แต่ไม่ใช่เป็นการตั้งสถาบันแบบเฉพาะทางโดยยกฐานะวิทยาลัยเดียวขึ้นมา เพราะจะเกิดความเสียหายต่อประเทศ และไม่สอดคล้องกับความเห็นของ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ไม่เห็นด้วยกับการยกฐานะวิทยาลัยแห่งเดียวขึ้นมาเปิดสอนในระดับปริญญาตรี เพราะจะทำให้วิทยาลัยอื่นๆ ยกฐานะตามขึ้นมา ทำให้มีอธิการบดี 415 คน นายกสภาสถาบัน 415 คน คณบดี และหัวหน้าภาคอีกหลายพันคน ซึ่งส่งผลต่องบประมาณของประเทศอย่างมาก
