ผู้ประกอบการร้านเหล้า ประกาศปิด ซอยมหาดไทย งดขายวันพระใหญ่ ชวน ประชาชนงดดื่ม “พ.ต.อ.ธวัช” ชี้ อุบัติเหตุ-อาชญากรรมซ้ำซาก เพราะปัญหาจากน้ำเมา แนะเคารพกฎหมาย ด้าน “ผจก.เครือข่ายงดเหล้า” เผย วันพระใหญ่ ร้านโชวห่วยแหกกฎ 95% อึ้งเด็ก 15 เข้าถึงกว่า 6 แสนคน เพียง 7 นาที หาซื้อเหล้ามาดื่มได้ ฝากรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาตรงจุด จำกัดจำนวนร้านขายเหล้า ตรวจสอบใบอนุญาตหลังพบมากกว่า 5 แสนใบ
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่โรงแรมชาลีน่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กองบัญชาการตำรวจนครบาลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 สน.วังทองหลาง สน.หัวหมาก เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ และผู้ประกอบการร้านค้า ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ “งดขายเหล้าสองวัน ชวนกันงดดื่ม” เนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ โดยมีการปล่อยขบวนรถออกรณรงค์ แจกสื่อ ติดสติกเกอร์ ให้กับร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในซอยมหาดไทย
พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกของผู้ประกอบการที่ได้มาร่วมกันแสดงเจตนาปฏิบัติตามกฎหมายไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งตรงกับวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ทั้งนี้ ในส่วนของ สน.วังทองหลาง ได้ทำหนังสือไปยังผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือในการงดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันเข้าพรรษา และวันอาสาฬหบูชา ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะร้านอาหาร ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ผับ บาร์ ต่างๆ จะทราบในข้อกฎหมายเป็นอย่างดี บางแห่งเตรียมปิดร้านเพื่อให้พนักงานได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงสถานประกอบการขนาดเล็ก เช่น ร้านโชวห่วย ที่อาจมีการลักลอบจำหน่าย ซึ่งในปีที่ผ่านมาในเขตของ สน.วังทองหลาง พบผู้ฝ่าฝืน 2-3 ราย แม้จะไม่มากแต่อยากให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ทั้งนี้หากพบมีการลักลอบจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“อุบัติเหตุและคดีอาชญากรรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเมาแล้วขับ หรือก่อคดีทะเลาะวิวาท ถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม ดังนั้นในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้อยากให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญในการเริ่มต้น ลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทซึ่งหากผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ ยอมปฏิบัติตามกฎหมาย ก็จะช่วยลดปัญหาต่างๆที่จะตามมาได้” ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง กล่าว
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ8) กล่าวว่า จากรายงานความหนาแน่นของร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในซอยมหาดไทย ยังพบว่า มีมากถึง 101 จุด ถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง แต่หากผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด อาทิ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ว่าด้วยใบอนุญาตขายและภาษี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ว่าด้วยการปกป้องคุ้มครองเด็กจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ก็เชื่อปัญหาสังคมจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ไม่ขายเหล้าในพื้นที่นำร่องครั้งนี้ จะเป็นแบบอย่างให้กับร้านค้าอีกหลายพื้นที่โดยเฉพาะย่านสถานบันเทิง เพราะลำพังการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ดังนั้นการลุกขึ้นมา ประกาศความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการยินดีปฏิบัติตามกฎหมาย ถือเป็นความรับผิดชอบที่น่าชื่นชม และหวังว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน ชุมชนในพื้นที่ นิสิตนักศึกษา และหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันเฝ้าระวัง คอยตรวจเตือนร้านค้าอย่างต่อเนื่อง
นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายงดเหล้าฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ต่อการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา พบว่า ร้านค้าเกือบทุกร้าน หรือ 95% เปิดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ ชี้ให้เห็นว่า มีร้านค้าเพียง 5% เท่านั้น ที่ทำตามกฎหมาย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ที่พบ คือ ร้านค้าในชุมชน ร้านโชวห่วย ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่น ขณะเดียวกัน การออกใบอนุญาตของสรรพสามิตในปี 2552 ยังพบว่า มีมากถึง 589,917 แสนใบ และมีอีกเป็นจำนวนมากที่ขายโดยไม่มีใบอนุญาตจึงไม่เป็นเรื่องแปลก ที่งานวิจัยจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ระบุว่า เด็กไทยสามารถหาซื้อเหล้าเบียร์ ได้ในเวลา เพียง 7 นาที
“จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร จึงอยากเชิญชวนร้านค้าทั่วประเทศ หยุดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ และฝากไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ ให้พิจารณาเรื่องของการออกใบอนุญาต เพื่อจำกัดจำนวนร้านจำหน่ายสุราเพราะทุกวันนี้ใบอนุญาตขายเหล้า สามารถออกได้ง่ายและมีราคาถูก ดังนั้น หากมีจำนวนที่มากเกินไป ขาดการตรวจสอบ จะทำให้เกิดปัญหาสังคมเด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เห็นได้จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจปีล่าสุด พบว่า เด็ก 15-19 ปี ดื่มมากถึง 670,000 คน หรือ 12.8% และอายุนักดื่มหน้าใหม่ลดต่ำลงเรื่อย ต่อไปอาจทำให้สมองของชาติถดถอยในระยะยาว” นายธีระ กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ คงตุ้ง ตัวแทนผู้ประกอบการที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซอยมหาดไทย กล่าวว่า โดยปกติ ทางร้านจะให้ความสำคัญกับวันพระใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเลือกวิธีปิดร้าน ถือโอกาสนี้ให้พนักงานได้หยุดพักผ่อน ขณะเดียวกัน อาจมีบางร้านเลือกใช้วิธีเปิดเฉพาะโซนขายอาหาร โดยไม่ขายเหล้าเบียร์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้เช่นกัน แม้รายได้จะหายไปในช่วงนี้บ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องทำตามกฎหมาย และหากจะให้ดีควรจะมีการงดขายในวันพ่อและวันแม่ด้วย ซึ่งทางร้านเองก็งดขายเป็นประจำทุกปี
“โดยส่วนตัวผมอยากให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงโซนอื่นๆ ลุกขึ้นมาเหมือนซอยมหาดไทย โดยไม่ต้องรอ ให้ถูกบังคับใช้กฎหมาย หรือบทลงโทษ แต่ควรทำด้วยความสมัครใจ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย หากผู้ประกอบการมีความเข้าใจกฎหมาย และมีส่วนร่วมอย่างจริงจังก็จะเป็นการช่วยสังคม ลดปัญหาอุบัติเหตุ อาชญากรรม ทั้งนี้ การปิดซอยมหาดไทยงดขายเหล้า 2 วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ของผู้ประกอบการและชุมชนที่นี่ด้วย และที่สำคัญ เรายังเชิญชวนชาวซอยมหาดไทยและประชาชนทั่วไปร่วมงดดื่มในวันเข้าพรรษาซึ่งเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติของทุกปีด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว