ผู้เสียหายทยอยเข้าร้องเรียนที่ บช.น. เหตุดาบตำรวจประชาชื่นจี้ชิงทรัพย์เพิ่ม ระบุเหตุเกิดทางด่วนบึงพระราม 9 แขวงและเขตวังทองหลาง พร้อมมอบหมาย บก.น.4 ขยายผลการกระทำผิดและตรวจค้นบ้านพัก ล่าสุดสน.วังทองหลางได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ยืนยันขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.ปรีดา สถาวร โฆษก บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี ด.ต.วัฒนา ฉางทรัพย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ร่วมมือกับพรรคพวกก่อเหตุชิงทรัพย์นายสิริกานต์ ติวารี อายุ 45 ปี ชาวไทยเชื้อสายอินเดีย บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 106 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้มอบหมายให้ บก.น.4 และ สน.วังทองหลาง สืบสวนเพื่อขยายผลการกระทำผิดว่าผู้ต้องหาไปกระทำผิดในท้องที่ใดบ้าง พร้อมทั้งตรวจค้นบ้านพักด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์เพิ่มเติมอีก 1 คดี เลขที่ 1322/2555 ข้อหาชิงทรัพย์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2555 เวลาประมาณ 19.00 น. บริเวณทางด่วนบึงพระราม 9 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งผู้เสียหายคือ นายภูเพนตรา ซิงห์ ได้ขี่จักรยานยนต์มาบริเวณดังกล่าว และผู้ต้องหาได้เรียกให้หยุดรถ พร้อมกับชิงทรัพย์ผู้เสียหายก่อนหลบหนีไป โดยเหตุการณ์นี้ผู้เสียหายไม่ได้เดินทางไปแจ้งความ แต่เมื่อมีข่าวออกมาและจำใบหน้าคนร้ายได้จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
พ.ต.อ.ปรีดากล่าวว่า กรณีของ ด.ต.วัฒนา ฉางทรัพย์ ไม่ใช่เป็นการกระทำผิดในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่เกิดขึ้นขณะพักเวรและนอกเขตอำนาจหน้าที่ จึงเป็นการกระทำผิดส่วนตัว โดยทาง พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างรุนแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 86 และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้ ถ้ามีหลักฐานว่ากระทำผิดจริงจะดำเนินการให้ออกจากราชการทันที และให้ สน.วังทองหลาง ดำเนินการทางคดีอาญา ส่วน สน.ประชาชื่นให้ดำเนินการทางวินัย ซึ่งคดีทางวินัยจะสอบสวนให้เสร็จภายใน 270 วัน รวมทั้งจะสืบสวนขยายผลเพื่อหากลุ่มผู้กระทำผิดต่อไป
ล่าสุดพ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี รอง ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา ผกก.สน.วังทองหลาง ควบคุมตัว ด.ต.วัฒนา ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบสำนวนคดี ภายในซอยลาดพร้าว 106 แยก2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม.
ทั้งนี้ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ด.ต.วัฒนา ได้ปฎิเสธและไม่ยอมลงมาจากรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบอกเพียงว่าขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ต่อมา พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ได้เข้าไปสอบถามพูดคุย แต่ ด.ต.วัฒนา ยังยืนยันว่าจะไม่ลงมาชี้จุดแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเอาผิดกับ ด.ต.วัฒนา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาได้ เนื่องจากมีพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว แม้ว่าผู้ต้องหาจะปฎิเสธไม่ยอมชี้ลงมาชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งการปฏิเสธไม่ยอมทำแผนชี้จุดนั้นอาจส่งผลกระทบต่อตัวผู้ต้องหาเอง เพราะหากได้รับความร่วมมือจะช่วยให้ผู้ต้องหาลดหย่อนโทษในชั้นศาลได้ อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าวถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจอีกด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ พร้อมเตรียมขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการคนอื่น โดยผู้ต้องหายังอ้างว่าที่ทำลงไปเพราะมีตำรวจรุ่นพี่สังกัด191 เคยพาไปทำ
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการเล่นพนันฟุตบอลยูโร 2012 กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการดำเนินการจับกุมผู้ลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอลในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ว่า หลังจากที่มีการประชุมเพื่อเร่งรัดดำเนินการต่างๆ นั้น ซึ่งที่ผ่านมาทั้งหมด 11 วัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) จับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมด 122 ราย ได้ผู้ต้องหา 123 คน ยึดเงินสดของกลางได้ 4,070 บาท ยอดเงินทั้งหมดในโพยบอล 437,100 บาท ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 1,094 ราย ผู้ต้องหา 1,109 คน แบ่งเป็นเจ้ามือโต๊ะบอล 41 คน และนักพนัน 1,068 คน ยอดเงินสดรวม 138,600 บาท และยอดเงินในโพยบอลทั้งหมดกว่า 5,277,800 บาท
พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะในท้องที่ สน.หัวหมาก กับ สน.วังทองหลาง ซึ่งทาง บก.น.4 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปตรวจสอบตามซอยมหาดไทยและท้องที่ต่างๆ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาว่าเป็นแหล่งอบายมุข และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ลงไปดำเนินการแล้วพบว่าตามแหล่งต่างๆ ที่เคยมีประวัติการเล่นพนันได้ลดจำนวนลงไปมาก