ผู้กำกับ สน.วังทองหลาง ปลื้ม รณรงค์งดขายเหล้าวันพระใหญ่ได้ผล ยันยังไม่พบแววผู้ประกอบการทำผิด กม.ด้านเครือข่ายเยาวชนฯ ชู ซ.มหาดไทย ต้นแบบงดขายน้ำเมา ขณะที่ ผับ-บาร์ ย่านอื่น 39.13% ยังท้าทายกฎหมาย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งจัดโซนนิ่ง หลังพบสถานบันเทิงลามเข้าใกล้มหาลัย
พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันพระใหญ่ 2 วัน คือ วันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษา ว่า ในส่วนของ สน.วังทองหลาง ถือว่า สถานประกอบการ ผับบาร์ ร้านสะดวกซื้อ ต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในซอยมหาดไทย ซึ่งเป็นแหล่งสถานบันเทิงขึ้นชื่อ มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 111 ร้าน แบ่งเป็นร้านผับบาร์ 17 ร้าน ร้านสะดวกซื้อ 20 ร้าน ร้านโชวห่วย 43 ร้าน ร้านข้าวต้ม โต้รุ่ง 11 ร้าน และร้านยาดอง ร้านเหล้าปั่น 20 ร้าน โดยวันพระใหญ่ปีนี้ไม่ได้รับรายงานการแอบขายหรือเปิดร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่ร้านเดียว ส่งผลให้ยอดอุบัติเหตุ หรือปัญหาอาชญากรรม ลดลงตามไปด้วยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าการณรงค์สามารถกระตุ้นผู้ประกอบการให้เกิดความตระหนัก ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการจัดระเบียบสังคม
“แม้จะไม่มีรายงานการกระทำผิด แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องเพิ่มมาตรการเพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น คือ ผู้ประกอบการร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอมจ่ายค่าปรับเพื่อให้ได้ขายสินค้า ถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้น ทุกฝ่ายควรร่วมเป็นหูเป็นตา เพราะลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขณะเดียวกัน บทลงโทษของไทยต้องเข้มงวดมากขึ้นกว่านี้หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ที่ประชาชนเคารพกติกาจนไม่กล้าทำผิดเนื่องจากมีบทลงโทษทางกฎหมายที่สูง” พ.ต.อ.ธวัช กล่าว
นายธีระภัทร คหะวงศ์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ผู้ประกอบการบางร้านออกมาระบุว่า ควรเพิ่มวันงดจำหน่ายเครื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น วันพ่อ และวันแม่ ซึ่งจากการที่เครือข่ายเยาวชนฯลงพื้นในซอยมหาดไทยช่วง 2 วันพระใหญ่ พบว่า สถานประกอบการต่างให้ความร่วมมือด้วยการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดทั้งซอย หากเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น เช่น สนามหลวง ถนนข้าวสาร ปิ่นเกล้า ถนนลาดพร้าว พหลโยธิน เกษตร วิภาวดี ที่ทำการสำรวจในวันวิสาขบูชา พบว่า เพียงวันเดียวมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 45 ร้าน หรือ 39.13% จากจำนวนทั้งหมด 115 ร้าน ทั้งนี้ จึงอยากฝากไปถึงผู้ประกอบการควรให้ความร่วมมือเพื่อลดปัญหาสังคม การทะเลาะวิวาท อาชญากรรม โดยเฉพาะปัญหาเยาวชนที่นับวันจะกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น
“สิ่งที่เครือข่ายเยาวชนฯหนักใจและเป็นห่วง คือ จำนวนร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา ที่มีความหนาแน่นมากเกินไป ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นควรถึงเวลาที่หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบต้องทบทวนเรื่องการจัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษา” นายธีระภัทร กล่าว