สสส.-สคล.ผนึก 27 องค์กร จัดกิจกรรมงดดื่มน้ำเมาครั้งประวัติศาสตร์!! เดิน “ธรรมยาตรา งดเหล้าเข้าพรรษา” ชู 37 จังหวัดทั่วไทยเข้มงดเหล้า “ทพ.กฤษดา” ย้ำ 16 ก.ค.วันเข้าพรรษาที่มาของวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ชี้ หลายจังหวัดตื่นตัว แห่ปฏิญาณตนงดดื่ม
วันที่ 7 ก.ค.ที่สวนสันติชัยปราการ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา และเครือข่ายด้านศาสนา กว่า 27 องค์กร จัดโครงการเดินธรรมยาตรา เพื่อ “รวมพลังทำความดีงดเหล้าเข้าพรรษา” เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา โดยมีศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เป็นประธาน และมีพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต สมณะเพาะพุทธ จันทเสฎโฐ สถาบันบุญนิยม พระสงฆ์ แม่ชี และพุทธศาสนิกชนกว่า 300 คน แต่งกายขาวร่วมเดินขบวนจากสวนสันติชัยปราการ ไปที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมกันประกาศธรรมยาตรางดเหล้าเข้าพรรษาปี 2554
โดยทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 9 สร้างกระแสให้สังคมไทยเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อนำไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ตั้งสัจจะอธิษฐาน ลดละเลิกเหล้า ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 26,000 คนต่อปี สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่คนไทยต้องควักกระเป๋าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 2 แสนล้านบาท ซึ่งผลจากการรณรงค์ทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นจาก 15% ในปีแรกของการรณรงค์ เพิ่มขึ้นเป็น 55.1% ในปีที่แล้ว และเชื่อว่าภายในปีนี้จะมีผู้ร่วมงดดื่มเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“จากความสำคัญของวันงดดื่มหรือวันเข้าพรรษา ทำให้กลายเป็นที่มาของการทำความดี ลด ละ เลิก อบายมุข สอดคล้องกับผลสำรวจของเอแบคโพลล์ในปีล่าสุด พบว่า ประชาชน 88.6% เห็นด้วยให้มีวันงดดื่มสุราแห่งชาติ และ 61.6% เห็นว่าวันเข้าพรรษาควรเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ จึงเป็นที่มาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2551 เห็นชอบให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนงดดื่มเหล้าในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ตลอดจนกระตุ้นและปลุกกระแสสังคมให้หันมาตระหนักถึงคุณค่าในการที่จะเลิกเหล้าได้” ทพ.กฤษดา กล่าว
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา มีจังหวัดที่ทำอย่างเข้มข้นมากถึง 37 จังหวัด อาทิ แพร่ ลำพูน ชุมพร สงขลา ขอนแก่น สุรินทร์ สกลนคร และชัยภูมิ โดยเครือข่ายงดเหล้าพร้อมที่จะขยายให้ครบทุกจังหวัดภายในปี 2555 ส่วนกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าในจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่จะเน้นการชวนเพื่อน ชวนครอบครัว ชวนญาติเลิกเหล้า และที่สำคัญคือการปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานราชการ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว เข้าร่วมกว่า 40,700 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้าเข้าพรรษา มาร่วมทำความดีด้วยการปฏิญาณตนร่วมกัน หรือชวนเพื่อนมางดเหล้าเข้าพรรษา โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลแนะนำการเลิกเหล้า รวมถึงการปฏิเสธเมื่อเพื่อนชวนดื่มเหล้า ได้ที่ www.facebook.com/Noalcoholreality
วันที่ 7 ก.ค.ที่สวนสันติชัยปราการ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา และเครือข่ายด้านศาสนา กว่า 27 องค์กร จัดโครงการเดินธรรมยาตรา เพื่อ “รวมพลังทำความดีงดเหล้าเข้าพรรษา” เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา โดยมีศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เป็นประธาน และมีพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต สมณะเพาะพุทธ จันทเสฎโฐ สถาบันบุญนิยม พระสงฆ์ แม่ชี และพุทธศาสนิกชนกว่า 300 คน แต่งกายขาวร่วมเดินขบวนจากสวนสันติชัยปราการ ไปที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมกันประกาศธรรมยาตรางดเหล้าเข้าพรรษาปี 2554
โดยทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 9 สร้างกระแสให้สังคมไทยเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อนำไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ตั้งสัจจะอธิษฐาน ลดละเลิกเหล้า ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 26,000 คนต่อปี สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่คนไทยต้องควักกระเป๋าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 2 แสนล้านบาท ซึ่งผลจากการรณรงค์ทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้นจาก 15% ในปีแรกของการรณรงค์ เพิ่มขึ้นเป็น 55.1% ในปีที่แล้ว และเชื่อว่าภายในปีนี้จะมีผู้ร่วมงดดื่มเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“จากความสำคัญของวันงดดื่มหรือวันเข้าพรรษา ทำให้กลายเป็นที่มาของการทำความดี ลด ละ เลิก อบายมุข สอดคล้องกับผลสำรวจของเอแบคโพลล์ในปีล่าสุด พบว่า ประชาชน 88.6% เห็นด้วยให้มีวันงดดื่มสุราแห่งชาติ และ 61.6% เห็นว่าวันเข้าพรรษาควรเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ จึงเป็นที่มาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2551 เห็นชอบให้วันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนงดดื่มเหล้าในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ตลอดจนกระตุ้นและปลุกกระแสสังคมให้หันมาตระหนักถึงคุณค่าในการที่จะเลิกเหล้าได้” ทพ.กฤษดา กล่าว
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา มีจังหวัดที่ทำอย่างเข้มข้นมากถึง 37 จังหวัด อาทิ แพร่ ลำพูน ชุมพร สงขลา ขอนแก่น สุรินทร์ สกลนคร และชัยภูมิ โดยเครือข่ายงดเหล้าพร้อมที่จะขยายให้ครบทุกจังหวัดภายในปี 2555 ส่วนกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าในจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่จะเน้นการชวนเพื่อน ชวนครอบครัว ชวนญาติเลิกเหล้า และที่สำคัญคือการปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานราชการ ตำบล หมู่บ้าน ครอบครัว เข้าร่วมกว่า 40,700 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้าเข้าพรรษา มาร่วมทำความดีด้วยการปฏิญาณตนร่วมกัน หรือชวนเพื่อนมางดเหล้าเข้าพรรษา โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลแนะนำการเลิกเหล้า รวมถึงการปฏิเสธเมื่อเพื่อนชวนดื่มเหล้า ได้ที่ www.facebook.com/Noalcoholreality