xs
xsm
sm
md
lg

5 หน่วยผนึกกำลังประกาศ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ถวายในหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
 

5 หน่วยงาน รวมพลังประกาศ “งดเหล้าเข้าพรรษาปี 54” ถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมเปิดตัว  37 จังหวัดนำร่องเลิกเหล้า ตั้งเป้าปี 55 ครอบคลุมทั่วประเทศ สสส.ชี้ ประชาชน 36.3% งดดื่มช่วง 3 เดือน ประหยัดเงิน 1,400 บาทต่อเดือน ด้าน มท.ทำหนังสื่อสั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดจับตาเข้าพรรษา ขณะที่ สธ.วอนตำรวจเข้มบังคับใช้กฎหมาย แนะโชว์ห่วย ร้านค้า อย่าแหกกฎ

           วันนี้ (23 มิ.ย.) กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคประชาคมงดเหล้า ร่วมประกาศความร่วมมือ งดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2554 ภายใต้แคมเปญ “เหล้าทำลายมิตรภาพ...เข้าพรรษานี้เลิกเลย” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนพรรษาครบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.2554 และการครบรอบ 2,600 ปี การตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปี 2555 ทั้งนี้ ภายในงานได้มีกิจกรรมเชิญสัญลักษณ์ด้วยการนำดินเหนียวจากจังหวัดต่างๆ มาหล่อเป็นองค์พระ พร้อมทั้งร่วมกันตั้งจิตอธิฐานให้เป็นหนึ่งเดียว

           โดย ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถิติจะเห็นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึงปีละ 26,000 คน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละ 1.5 แสนล้านบาท โดยคนไทยต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละ 2 แสนล้านบาท แต่ละปีมีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 260,000 คน อย่างไรก็ตาม การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาที่ สสส.ร่วมรณรงค์กับหน่วยงานต่างๆ ผ่านมา ทำให้มีผู้งดดื่มเพิ่มขึ้น เห็นได้จากผลสำรวจการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษาของเอแบ คโพลล์ ปี 2553 ที่ระบุว่า มีผู้งดเหล้าตลอด 3 เดือนมากถึง 36.3% งดเป็นบางช่วง 18.8% ส่วนที่ไม่งดดื่มมี 44.9%  โดยปัจจัยที่ช่วยให้งดดื่มได้มากที่สุด คือ ตัวเราเอง ใจเราเอง 35.7% รองลงมาคือ ครอบครัวพ่อแม่ ลูก ภรรยา 28.6 %  ซึ่งส่วนใหญ่เคยเห็นและรับรู้การรณรงค์มากถึง 81.1% นอกจากนี้ข้อมูลของศูนย์วิจัยปัญหาสุรายังพบว่า การงดเหล้าเข้าพรรษาทำให้ประหยัดเงินค่าเหล้าเฉลี่ยคนละ 1,400 บาทต่อเดือน

          “เป็นเวลา 8 ปี ที่กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นที่รู้จักในสังคม และเป็นต้นแบบการรณรงค์ลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาต่างๆ จนกลายเป็นแบรนด์ที่เข้มแข็งของขบวนการสร้างเสริมสุขภาพ และอาจทำให้เป็นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนพรรษาครบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.2554 ทางเครือข่ายงดเหล้า ได้เชิญชวนจังหวัดนำร่อง 37 แห่ง อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น สุรินทร์ สงขลา ตราด ฯลฯ ให้ร่วมทำความดีในครั้งนี้และจะขยายให้ครอบคลุมทุกจังหวัดภายในปี 2555 โดยตั้งเป้าให้คนงดดื่มตลอด 3 เดือน ให้ได้ถึง 50% ซึ่งคงต้องขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ว่าฯ ในฐานะประธานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดขับเคลื่อนเรื่องนี้”  ศ.นพ.อุดมศิลป์  กล่าว

             นพ.สมาน  ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ทางกระทรวงคงต้องเฝ้าระวังและบังคับใช้กฏหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือผู้ประกอบการและสถานบริการทุกแห่ง ให้หยุดบริการและห้ามขายสุราในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งถือว่าเป็นวันงดดื่มแห่งชาติด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากสถานบริการเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีบางแห่งที่ไม่เข้าใจและเปิดให้บริการ เช่น โชวห่วย หรือร้านค้าในชุมชน รวมถึงไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามกฎหมายที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หากพบเห็นสามารถโทรแจ้งร้องเรียนได้ที่ศูนย์ร้องเรียนสุรา กรมควบคุมโรค หมายเลข 0-2590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง

            นายไพบูลย์ ทาสระคู  ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยถือเป็นส่วนหนึ่งที่ให้ความร่วมมือกับโครงการนี้มาอย่างต่อ เนื่อง และขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศให้สนับ สนุนโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อสร้างค่านิยมในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม และลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมการปกครอง ควบคุมดูแลสถานที่สำคัญเป็นพิเศษ เช่น  วัด สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สวนสาธารณะ ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

           นายอดุลย์ เอี่ยมทา นักวิชาศาสนา ชำนาญการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เป็น เรื่องดีที่หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นปัญหาสังคม ไม่ใช่เรื่องของคณะสงฆ์เท่านั้น ที่ผ่านมา ทางมหาเถรสมาคม มีดำริให้สำนักงานเป็นแกนกลางในการณรงค์ให้ชาวพุทธทั่วประเทศมีวิถีปฏิบัติตามศีล 5 โดยเฉพาะงดดื่มสุราและสิ่งเสพติดทุกชนิด อีกทั้งยังมีมติให้ทุกวัดเคร่งครัดปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับรูปแบบการรณรงค์ปีนี้นั้นมีลักษณะต่อเนื่องและแตกต่างกันออกไป อาทิ การปฏิญาณตนงดเหล้า การเดินรณรงค์ การปิดป้ายตามวัดต่างๆ หรือชุมชน โรงเรียน ที่อยู่ใกล้วัด รวมไปถึงสอดส่องดูแลวัดทั่วประเทศหากมีการจัดกิจกรรมทางศาสนาว่าปลอดจาก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น