ศ.ดร.วิรุณ อธิการ มศว เขียนจดหมายเปิดใจถึงสื่อมวลชนทุกคน (ฉบับที่ 1)
ผมได้ติดตามข่าวสับสนต่อต้านการรักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ท่ามกลางกระแสการเรียกร้องการเมือง การบิดเบือนสูงมากในสังคมไทย ผมยังเชื่อมั่นว่า มหาวิทยาลัยต้องเป็นต้นแบบของความดีงาม เหตุผล และรู้จักแพ้ชนะ รู้อภัย รู้กาลเทศะ มองโลกในทางบวก เราต้องมองตัวเราเองด้วยกันทุกคน ผมทำงานภายใต้มติและวินิจฉัยของสภามหาวิทยาลัย สภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีความเข้มแข็งมาก นายกสภามหาวิทยาลัยระดับ ศาสตราจารย์เกษม สุวรรณกุล อุปนายก ศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน กรรมการสภามหาวิทยาลัย คุณหมอประเวศ วะสี ท่านอาจารย์ นรนิติ เศรษฐบุตร คุณโสภณ สุภาพงษ์ ฯลฯ ย่อมมีความหมายยิ่ง
มศว วันนี้พัฒนาก้าวหน้าไปมาก ช่วงเวลา 8 ปีเต็ม ได้บริหารมหาวิทยาลัยจนเจริญรุ่งเรืองเป็นที่ประจักษ์ในทุกด้าน มีงานที่มากมายและซับซ้อนมาก งานและเอกสารมากมายในแต่ละวัน สมมุติผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้ามารักษาราชการ คงมีความยุ่งยากมาก และท่านก็คงไม่ประสงค์จะเข้ามารักษาราชการแทนด้วยเช่นกัน ผมขอยืนยันว่า ผมมีคุณธรรม เมตตาธรรม สะอาดและโปร่งใส พัฒนา มศว มาไกลแล้ว ผมพร้อมจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสภามหาวิทยาลัยให้ดีที่สุดต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ
รักษาราชการแทน
อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
30 มิถุนายน 2554
ศ.ดร.วิรุณ อธิการ มศว เขียนจดหมายเปิดใจถึงสื่อมวลชนทุกคน (ฉบับที่ 2)
การที่มีการกล่าวหาว่า อธิการบดี มศว ขึ้นเงินเดือนตนเองนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงคือ คณะกรรมการบริหารงานบุคคล (กบบ.) ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากสภามหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการการบริหารงานบุคคล และการขึ้นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง การประชุมดังกล่าวนั้น มีผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตเลขาธิการ ก.พ.เป็นประธาน พิจารณาเงินเดือนสำหรับผู้บริหาร ทั้งอธิการบดี รองอธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการ พิจารณาภายใต้กรอบบัญชีเงินเดือนที่สภามหาวิทยาลัยมีมติเห็นชอบไว้แล้ว อธิการบดี ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย ได้เสนออัตราเงินเดือนของอธิการบดี บนหลักการดังนี้
พิจารณาขนาดและงานขององค์กร ซึ่ง มศว พัฒนาไปมากแล้ว มีหน่วยงานระดับ
คณะ ประมาณ 30 หน่วยงาน บุคลากรวิชาการและสนับสนุนวิชาการกว่า 4,500 คน นิสิตกว่า 20,000 คน
พิจารณางบประมาณรวมที่ขยายตัวซึ่งในช่วง 4-5 ปี งบประมาณกว่าสามเท่าตัว
จาก 1,500 ล้าน เป็นกว่า 4,000 ล้าน ในช่วงเวลานั้น
พิจารณาจากประสบการณ์ เคยดำรงตำแหน่งคณบดี 2 วาระ รองอธิการบดี 1 วาระ
และอธิการบดีก้าวเข้าสู่วาระที่สอง ประสบการณ์ในการบริหารยาวนานและเป็นการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ
เรื่องดังกล่าว มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการอย่างชอบธรรมแล้ว ไม่ใช่อธิการบดีขึ้น
เงินเดือนให้ตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ศาสตราจารย์ ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ
รักษาราชการแทน
อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
1 กรกฎาคม 2554