กก.ผู้ทรงคุณวุฒิ มศว แจงเหตุ “วิรุณ” นั่ง รก.อธิการฯ เผยยังไม่ได้รับข่าวหรือหนังสือลาออกของ กก.ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 ตามที่มีข่าวลือ ชี้ “สิทธิชัย-วรากรณ์” ลาออกไม่คุ้นเคยและรู้จัก มศว ไม่มากพอ
นายธีระชัย เชมนะสิริ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ชี้แจงถึงกรณีที่สภามหาวิทยาลัย มศว นัดประชุมวาระพิเศษในวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมสภา มศว ครั้งนั้นมีวาระการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งรักษาการอธิการบดี โดยยึด 4 แนวทาง คือ 1.ให้อธิการบดีคนเดิมรักษาการ 2.ให้ผู้ที่ได้รับการเสนอรายชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนต่อไปเข้ารับตำแหน่งรักษาการ 3.ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารักษาการแทน และ 4.ให้บุคคลภายนอกเข้ามารักษาการ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้หารือในแต่ละแนวทางท้ายที่สุดแล้วจึงได้มีมติให้ ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีคนปัจจุบันรักษาการในตำแหน่งอธิการบดี เนื่องจากมีความเหมาะสม อีกทั้งในกรณีที่จะให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภามหาวิทยาลัยที่มีการเสนอรายชื่อเข้ามารักษาการ ก็ไม่มีใครรับ เพราะแต่ละคนก็มีภารกิจมากมายทุกคนก็ถอนตัว และถ้าจะให้บุคคลภายนอกเข้ามานั่งรักษาการก็ยังไม่ได้ทาบทามมาก่อน เกรงว่าจะทาบทามและกว่าจะได้บุคคลมานั่งรักษาการก็จะล่าช้าเกินไปไม่ทันการณ์ จึงได้มีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ ศ.ดร.วิรุณ รักษาการต่อไป โดยกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดไม่มีผู้ใดคัดค้านมติดังกล่าว
“ผมได้เสนอในที่ประชุมเพื่อให้ที่ประชุมมีทางออกสืบเนื่องจากมีการประชุมโดยใช้เวลายาวนานและทำกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ได้เสนอว่าเราควรจะเคารพความต้องการของคนในเป็นหลัก เมื่อมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอันประกอบด้วยประธานสภาคณาจารย์ ผู้แทนผู้บริหาร ผู้แทนคณาจารย์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีมติอย่างไร เราก็ต้องเคารพในมติ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางการศึกษาที่ใหญ่มาก จำเป็นต้องได้บุคคลเข้ามารักษาการโดยเร็ว เพื่อให้งานเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ทั้งนี้ ผมได้เสนอต่อที่ประชุมอีกว่าคงไม่มีใครจะรักและจริงใจกับ มศว เท่ากับคน มศว เอง และคงไม่มีใครที่จะรู้และเข้าใจปัญหาพร้อมจะเข้ามาทำงานได้อย่างทันท่วงทีเท่ากับคนมศว ตลอดถึงการที่ ศ.ดร.วิรุณ จะถูกร้องเรียนใดๆ ก็ตาม และอาจจะมีบุคคลจะไม่เห็นด้วยที่ ศ.ดร.วิรุณจะเข้ามารักษาการ แต่ผมก็เชื่อว่ามีบุคคลเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ที่ร้องเรียนหากเปรียบเทียบกับจำนวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในมศว นิสิตใน มศว ทั้งหมด เมื่อมีการร้องเรียน ศ.ดร.วิรุณ ผมจึงคิดว่าเขาควรจะได้พิสูจน์ตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี และมีเกียรติ ไม่ใช่ให้เขาออกไปจากเส้นทางการบริหารและไปนั่งดูนอกเวที ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมและเป็นการไม่ให้เกียรติกัน” นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 4 คนจะลาออกอีกว่า ตอนนี้ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับข่าวและไม่มีจดหมายใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีการลาออกอย่างเป็นทางการนั้นมีจดหมายอย่างเป็นทางการมีอยู่ 2 คนคือ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม และนายวรากรณ์ สามโกเศศ ซึ่งบุคคลทั้ง 2 เข้ามาทำงานในสภามศว เพียงไม่กี่เดือน ความคุ้นเคยและการรู้จัก มศว ยังไม่มากเพียงพอ และที่ระบุว่ามีบางคนที่ทำงานให้มศว เป็น 10 ปีจึงไม่เป็นความจริง
“นอกจากนี้ ที่ระบุว่านายนรนิติ เศรษฐบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ลาออกจากคณะกรรมอุทธรณ์และร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัยนั้นก็เพราะมศวมีนักร้องทุกข์ที่ร้องเรื่องซ้ำซากเดือนละประมาณ 10 เรื่อง ร้องคนเดียว 70 กรณี เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและวุ่นวายอย่างมากซึ่งบางเรื่องมีความคลาดเคลื่อนไปมาก มีข้อมูลเท็จอีกทั้งบุคคลเหล่านั้นก็ไม่ได้พิจารณาตัวเองเลยว่าได้สร้างความวุ่นวายให้ส่วนรวมเดือดร้อนอย่างไร ถามหาสิทธิแต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ของตัวเอง” นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัย เชมนะสิริ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ชี้แจงถึงกรณีที่สภามหาวิทยาลัย มศว นัดประชุมวาระพิเศษในวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมสภา มศว ครั้งนั้นมีวาระการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งรักษาการอธิการบดี โดยยึด 4 แนวทาง คือ 1.ให้อธิการบดีคนเดิมรักษาการ 2.ให้ผู้ที่ได้รับการเสนอรายชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนต่อไปเข้ารับตำแหน่งรักษาการ 3.ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารักษาการแทน และ 4.ให้บุคคลภายนอกเข้ามารักษาการ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้หารือในแต่ละแนวทางท้ายที่สุดแล้วจึงได้มีมติให้ ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีคนปัจจุบันรักษาการในตำแหน่งอธิการบดี เนื่องจากมีความเหมาะสม อีกทั้งในกรณีที่จะให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภามหาวิทยาลัยที่มีการเสนอรายชื่อเข้ามารักษาการ ก็ไม่มีใครรับ เพราะแต่ละคนก็มีภารกิจมากมายทุกคนก็ถอนตัว และถ้าจะให้บุคคลภายนอกเข้ามานั่งรักษาการก็ยังไม่ได้ทาบทามมาก่อน เกรงว่าจะทาบทามและกว่าจะได้บุคคลมานั่งรักษาการก็จะล่าช้าเกินไปไม่ทันการณ์ จึงได้มีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ ศ.ดร.วิรุณ รักษาการต่อไป โดยกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดไม่มีผู้ใดคัดค้านมติดังกล่าว
“ผมได้เสนอในที่ประชุมเพื่อให้ที่ประชุมมีทางออกสืบเนื่องจากมีการประชุมโดยใช้เวลายาวนานและทำกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ได้เสนอว่าเราควรจะเคารพความต้องการของคนในเป็นหลัก เมื่อมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอันประกอบด้วยประธานสภาคณาจารย์ ผู้แทนผู้บริหาร ผู้แทนคณาจารย์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีมติอย่างไร เราก็ต้องเคารพในมติ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันทางการศึกษาที่ใหญ่มาก จำเป็นต้องได้บุคคลเข้ามารักษาการโดยเร็ว เพื่อให้งานเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด ทั้งนี้ ผมได้เสนอต่อที่ประชุมอีกว่าคงไม่มีใครจะรักและจริงใจกับ มศว เท่ากับคน มศว เอง และคงไม่มีใครที่จะรู้และเข้าใจปัญหาพร้อมจะเข้ามาทำงานได้อย่างทันท่วงทีเท่ากับคนมศว ตลอดถึงการที่ ศ.ดร.วิรุณ จะถูกร้องเรียนใดๆ ก็ตาม และอาจจะมีบุคคลจะไม่เห็นด้วยที่ ศ.ดร.วิรุณจะเข้ามารักษาการ แต่ผมก็เชื่อว่ามีบุคคลเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ที่ร้องเรียนหากเปรียบเทียบกับจำนวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในมศว นิสิตใน มศว ทั้งหมด เมื่อมีการร้องเรียน ศ.ดร.วิรุณ ผมจึงคิดว่าเขาควรจะได้พิสูจน์ตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี และมีเกียรติ ไม่ใช่ให้เขาออกไปจากเส้นทางการบริหารและไปนั่งดูนอกเวที ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมและเป็นการไม่ให้เกียรติกัน” นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 4 คนจะลาออกอีกว่า ตอนนี้ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับข่าวและไม่มีจดหมายใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีการลาออกอย่างเป็นทางการนั้นมีจดหมายอย่างเป็นทางการมีอยู่ 2 คนคือ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม และนายวรากรณ์ สามโกเศศ ซึ่งบุคคลทั้ง 2 เข้ามาทำงานในสภามศว เพียงไม่กี่เดือน ความคุ้นเคยและการรู้จัก มศว ยังไม่มากเพียงพอ และที่ระบุว่ามีบางคนที่ทำงานให้มศว เป็น 10 ปีจึงไม่เป็นความจริง
“นอกจากนี้ ที่ระบุว่านายนรนิติ เศรษฐบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ลาออกจากคณะกรรมอุทธรณ์และร้องทุกข์ประจำมหาวิทยาลัยนั้นก็เพราะมศวมีนักร้องทุกข์ที่ร้องเรื่องซ้ำซากเดือนละประมาณ 10 เรื่อง ร้องคนเดียว 70 กรณี เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและวุ่นวายอย่างมากซึ่งบางเรื่องมีความคลาดเคลื่อนไปมาก มีข้อมูลเท็จอีกทั้งบุคคลเหล่านั้นก็ไม่ได้พิจารณาตัวเองเลยว่าได้สร้างความวุ่นวายให้ส่วนรวมเดือดร้อนอย่างไร ถามหาสิทธิแต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ของตัวเอง” นายธีระชัยกล่าว
