ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องให้ยึดทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว รวม 22 รายการ ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยวันนี้ (12 ม.ค.) มีพยานเข้าชี้แจงและให้ข้อมูล จาก 4 หน่วยงาน คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ
นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขึ้นเบิกความเป็นปากแรก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการชี้แจงเปิดเผยว่า องค์คณะผู้พิพากษาได้ซักถามเกี่ยวกับประเด็นการจัดเก็บภาษีสรรสามิตกิจการโทรคมนาคม และสัญญาสัมปทานดาวเทียมไอพีสตาร์ รวมทั้งสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยยืนยันว่า การดำเนินการที่ผ่านมาทั้งหมดคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ ประชาชน และความมั่นคงเป็นหลัก เพราะหากเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้น หรือแปรรูปกิจการโทรคมนาคม จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเป็นอย่างมาก
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า จากการชี้แจงครั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาไม่ได้เรียกพยานเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากได้ส่งเอกสารให้พิจารณาก่อนหน้านี้แล้ว
โดยวันนี้ (12 ม.ค.) มีพยานเข้าชี้แจงและให้ข้อมูล จาก 4 หน่วยงาน คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ
นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขึ้นเบิกความเป็นปากแรก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการชี้แจงเปิดเผยว่า องค์คณะผู้พิพากษาได้ซักถามเกี่ยวกับประเด็นการจัดเก็บภาษีสรรสามิตกิจการโทรคมนาคม และสัญญาสัมปทานดาวเทียมไอพีสตาร์ รวมทั้งสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยยืนยันว่า การดำเนินการที่ผ่านมาทั้งหมดคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ ประชาชน และความมั่นคงเป็นหลัก เพราะหากเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้น หรือแปรรูปกิจการโทรคมนาคม จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเป็นอย่างมาก
นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า จากการชี้แจงครั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาไม่ได้เรียกพยานเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากได้ส่งเอกสารให้พิจารณาก่อนหน้านี้แล้ว