มติ กก.ควบคุม ให้ นศ.มอส.ทั้งหมดยืนยันข้อมูลอีกครั้ง พร้อมสั่งอธิการเร่งตรวจสอบทรัพย์สินให้เสร็จภายใน 45 วัน ออกประกาศการรับ และลงทะเบียน นศ.ใหม่หวังจัดระบบให้ได้มาตรฐาน
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมการดำเนินงานมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) กล่าวภายหลังประชุม ว่า ได้แจ้งที่ประชุมว่าผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้คณะกรรมการควบคุม มอส.ช่วยเหลือนักศึกษาที่เรียน มอส.ทั้งในและนอกที่ตั้ง โดยที่ประชุมเห็นว่าจะแก้ไขปัญหาเป็นรายบุคคล แต่นักศึกษาจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลและยื่นข้อมูลที่เป็นจริงเท่านั้นพร้อมกับจะต้องแสดงหลักฐาน คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา โดยนักศึกษาจะต้องกรอกในเอกสารคำร้อง เช่น ข้อมูลการจ่ายค่าลงทะเบียน หลักฐานที่แสดงสถานภาพการนักศึกษา เป็นต้น ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าเดือดร้อนจริงก็จะให้การช่วยเหลือตามสภาพความเดือดร้อน อาทิ โดยผู้ที่เดือดร้อนแต่จ่ายเงินค่าลงทะเบียนจริง เรียนจริงก็จะช่วยในส่วนนี้ก่อน แต่หากเป็นการถูกหลอกจึงจะช่วยเหลือเป็นลำดับต่อไปโดยจะเปิดให้ยื่นข้อมูลที่ มอส. และ ม.ขอนแก่น ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการแผ่นดินได้เน้นย้ำหากผู้ใดให้ข้อมูลเป็นเท็จ หรือฐานเป็นเท็จให้ดำเนินการทางกฎหมายด้วย
กรรมการควบคุมฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้หารือถึงเรื่องการรับมอบทรัพย์สินของ มอส. จากอดีตอธิการ และผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งนั้น เพราะเมื่อลงไปตรวจสอบพบว่ามีปัญหามากยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทั้งหมด ที่ประชุมจึงเร่งรัดให้ผู้บริหาร มอส. จัดหาเจ้าหน้าที่บัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งอาจเป็นบุคคลภายนอก เข้ามาดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องทรัพย์สินให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ซึ่งเมื่อตรวจสอบเรียบร้อยจะทำให้ทราบได้ว่าทรัพย์สินใดเป็นของมหาวิทยาลัย เช่น โฉนดที่ดิน รายได้ที่เกิดจากหอพักนักศึกษาเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยหรือไม่
“อธิการบดี มอส.ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่างานทะเบียนเดิมของ มอส.มีปัญหามาก ตั้งแต่การรับนักศึกษาไม่มีความชัดเจน ไม่มีเอกสารประกอบการสมัคร ไม่มีการตรวจสอบการสมัคร ข้อมูลที่มีไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังพบว่ามีระบบเรียนก่อนชำระค่าลงทะเบียนทีหลังจึงไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ การส่งเกรดของอาจารย์ไม่มีกำหนดแน่นอน บางทีส่งล่าช้า หรือแม้แต่การขอแก้เกรดในทรานซ์สคริปต์ ก็พบว่ามีการขอจำนวนมากโดยที่ไม่มีการตรวจสอบ ดังนั้น อธิการบดี มอส.เสนอต่อคณะกรรมการควบคุมฯ เพื่อขอออก ประกาศการรับนักศึกษาและระบบทะเบียน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบเพื่อที่จะได้นำไปแก้ไขปัญหาระบบทะเบียนของ มอส.ให้มีมาตรฐาน”รศ.นพ.กำจร กล่าว
รศ.นพ.กำจร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อธิการ มอส.ได้รายงานด้วยว่าการรับนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2554 นี้ จำเป็นต้องรับตามจำนวนเดิมที่ สภา มอส.เดิมได้กำหนดไว้ประมาณ 289 คน ซึ่งรับเข้ามาศึกษาในคณะและสาขาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาส่วนของนักศึกษาจำนวน 765 รายที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานยังพบว่าทั้งหมดนั้นไม่มีเอกสารหลักฐานที่ครบบางคนขาดหลักฐานเช่น ข้อมูลรายงานที่อาจารย์ทำการนิเทศการสอน ขณะเดียวกันเมื่อทำการสุ่มตรวจสอบก็พบว่าในจำนวนนี้ มี 1 รายที่ทำการซื้อวุฒิมาด้วย
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.นักศึกษาที่เรียนในที่ตั้งและฝึกสอนครบปี 2.นักศึกษาที่เรียนในที่ตั้งแต่ฝึกสอนไม่ครบปี 3.นักศึกษาที่เรียนนอกที่ตั้งแต่ฝึกสอนครบปี และ 4.นักศึกษาที่เรียนนอกที่ตั้งแต่ฝึกสอนไม่ครบปี โดยทั้งหมดจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน คือ ยืนยันข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกันก็พบว่ามีนักศึกษาระดับปริญญาโท ที่เรียนนอกที่ตั้งต้องการให้ช่วยเหลือซึ่งจะใช้หลักการเดียวกัน คือ จะต้องยืนยันตัวเพื่อตรวจสอบซึ่งขณะนี้มีนักศึกษา ป.โท ที่ขอสำเร็จการศึกษา 523 คน และอยู่ระหว่างขอสอบวิทยานิพนธ์อีก 772 คน
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมการดำเนินงานมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) กล่าวภายหลังประชุม ว่า ได้แจ้งที่ประชุมว่าผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้คณะกรรมการควบคุม มอส.ช่วยเหลือนักศึกษาที่เรียน มอส.ทั้งในและนอกที่ตั้ง โดยที่ประชุมเห็นว่าจะแก้ไขปัญหาเป็นรายบุคคล แต่นักศึกษาจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลและยื่นข้อมูลที่เป็นจริงเท่านั้นพร้อมกับจะต้องแสดงหลักฐาน คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา โดยนักศึกษาจะต้องกรอกในเอกสารคำร้อง เช่น ข้อมูลการจ่ายค่าลงทะเบียน หลักฐานที่แสดงสถานภาพการนักศึกษา เป็นต้น ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าเดือดร้อนจริงก็จะให้การช่วยเหลือตามสภาพความเดือดร้อน อาทิ โดยผู้ที่เดือดร้อนแต่จ่ายเงินค่าลงทะเบียนจริง เรียนจริงก็จะช่วยในส่วนนี้ก่อน แต่หากเป็นการถูกหลอกจึงจะช่วยเหลือเป็นลำดับต่อไปโดยจะเปิดให้ยื่นข้อมูลที่ มอส. และ ม.ขอนแก่น ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการแผ่นดินได้เน้นย้ำหากผู้ใดให้ข้อมูลเป็นเท็จ หรือฐานเป็นเท็จให้ดำเนินการทางกฎหมายด้วย
กรรมการควบคุมฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้หารือถึงเรื่องการรับมอบทรัพย์สินของ มอส. จากอดีตอธิการ และผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งนั้น เพราะเมื่อลงไปตรวจสอบพบว่ามีปัญหามากยังไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทั้งหมด ที่ประชุมจึงเร่งรัดให้ผู้บริหาร มอส. จัดหาเจ้าหน้าที่บัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งอาจเป็นบุคคลภายนอก เข้ามาดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องทรัพย์สินให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ซึ่งเมื่อตรวจสอบเรียบร้อยจะทำให้ทราบได้ว่าทรัพย์สินใดเป็นของมหาวิทยาลัย เช่น โฉนดที่ดิน รายได้ที่เกิดจากหอพักนักศึกษาเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยหรือไม่
“อธิการบดี มอส.ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่างานทะเบียนเดิมของ มอส.มีปัญหามาก ตั้งแต่การรับนักศึกษาไม่มีความชัดเจน ไม่มีเอกสารประกอบการสมัคร ไม่มีการตรวจสอบการสมัคร ข้อมูลที่มีไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังพบว่ามีระบบเรียนก่อนชำระค่าลงทะเบียนทีหลังจึงไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ การส่งเกรดของอาจารย์ไม่มีกำหนดแน่นอน บางทีส่งล่าช้า หรือแม้แต่การขอแก้เกรดในทรานซ์สคริปต์ ก็พบว่ามีการขอจำนวนมากโดยที่ไม่มีการตรวจสอบ ดังนั้น อธิการบดี มอส.เสนอต่อคณะกรรมการควบคุมฯ เพื่อขอออก ประกาศการรับนักศึกษาและระบบทะเบียน ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบเพื่อที่จะได้นำไปแก้ไขปัญหาระบบทะเบียนของ มอส.ให้มีมาตรฐาน”รศ.นพ.กำจร กล่าว
รศ.นพ.กำจร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อธิการ มอส.ได้รายงานด้วยว่าการรับนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2554 นี้ จำเป็นต้องรับตามจำนวนเดิมที่ สภา มอส.เดิมได้กำหนดไว้ประมาณ 289 คน ซึ่งรับเข้ามาศึกษาในคณะและสาขาที่มีคุณภาพ มาตรฐาน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาส่วนของนักศึกษาจำนวน 765 รายที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานยังพบว่าทั้งหมดนั้นไม่มีเอกสารหลักฐานที่ครบบางคนขาดหลักฐานเช่น ข้อมูลรายงานที่อาจารย์ทำการนิเทศการสอน ขณะเดียวกันเมื่อทำการสุ่มตรวจสอบก็พบว่าในจำนวนนี้ มี 1 รายที่ทำการซื้อวุฒิมาด้วย
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.นักศึกษาที่เรียนในที่ตั้งและฝึกสอนครบปี 2.นักศึกษาที่เรียนในที่ตั้งแต่ฝึกสอนไม่ครบปี 3.นักศึกษาที่เรียนนอกที่ตั้งแต่ฝึกสอนครบปี และ 4.นักศึกษาที่เรียนนอกที่ตั้งแต่ฝึกสอนไม่ครบปี โดยทั้งหมดจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน คือ ยืนยันข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกันก็พบว่ามีนักศึกษาระดับปริญญาโท ที่เรียนนอกที่ตั้งต้องการให้ช่วยเหลือซึ่งจะใช้หลักการเดียวกัน คือ จะต้องยืนยันตัวเพื่อตรวจสอบซึ่งขณะนี้มีนักศึกษา ป.โท ที่ขอสำเร็จการศึกษา 523 คน และอยู่ระหว่างขอสอบวิทยานิพนธ์อีก 772 คน