สกอ.ปรับอธิการ ม.อีสาน 2 แสนบาท ฐานผิดไม่แยกบัญชีรายชื่อบัณฑิตซื้อ-ไม่ซื้อ และไม่แจ้งชื่อคณาจารย์หลักสูตรชุด ใหม่ ตั้ง “สมนึก พิมลเสถียร” เป็นประธานคณะกรรมการควบคุม งง! นายกสภามหาวิทยาลัย ตั้งรักษาการอธิการเสียบ ก่อนคณะกรรมการควบคุมเข้าไปบริหาร ด้าน "ชินวรณ์" ลั่นสาวถึงสภามหาวิทยาลัยก็ต้องเอาผิดด้วย
วานนี้ (27 เม.ย.) นายภาวิช ทองโรจน์ รองประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)พร้อมด้วย นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และนพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา นัดพิเศษ โดยนายภาวิช กล่าวว่า ที่ประชุม กกอ.มีมติ 3 ประเด็น คือ 1. เสนอรัฐมนตรี ให้มหาวิทยาลัยอีสาน จ.ขอนแก่น อยู่ในควบคุมคุมของ สกอ. 2.เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม เข้ามาบริหารมหาวิทยาลัยอีสานแทนผู้บริหาร และสภามหาวิทยาลัย และ 3.เสนอลงโทษเปรียบเทียบปรับอธิการบดี จำนวน 200,000 บาท แยกเป็นกรณีอธิการบดีไม่แยกทะเบียนบัณฑิตปกติกับบัณฑิตที่ ซื้อขาย ป.บัณฑิตจำนวน 100,000 บาท อีก 100,000 บาท สกอ.พบว่าไม่ได้แจ้งการพ้นสภาพคณาจารย์ที่ขอเปิดหลักสูตรชุดเก่า ซึ่งการตั้งคณาจารย์ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ชุดเก่า จะต้องแจ้งให้ สกอ.ทราบ ซึ่งมีความผิดตาม มาตรา 77
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเสนอรายชื่อคณะกรรมการควบคุม จำนวน 17 คน โดยมี นายสมนึก พิมลเสถียร อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่ดูแลด้านการศึกษา เป็นประธาน นพ.กำจร เป็นเลขานุการและกรรมการ และรายชื่อคณะกรรมการหลายท่านอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ จะนำรายชื่อคณะกรรมการควบคุมเสนอให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามต่อไป โดยคณะกรรมการควบคุมจะเข้ามาบริหารแทนบุคคลเหล่านี้ เพื่อไม่ให้สะดุด
นายภาวิช กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสภามหาวิทยาลัย ม.อีสาน ได้แต่งตั้งรักษาการอธิการบดี แทนอธิการบดี ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไป ซึ่งคณะกรรมการควบคุม จะต้องไปพิจารณาว่า รักษาการอธิการบดี เหมาะสมดำรงตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ หากพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม ก็ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรักษาการขึ้นในช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ นายภาวิช กล่าวว่า นายกสภามหาวิทยาลัยสามารถแต่งตั้งได้ เพื่อให้การผู้บริหารเกิดความต่อเนื่อง หากคณะกรรมการควบคุมเข้าไปบริหารงานแทนแล้วจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้ทำหน้าที่ต่อไป หรือจะเลือกผู้อื่นมาดำรงตำแหน่ง
ศ.เกียรติคุณ ดร.สุมนต์ สกลไชย อดีตอธิการ ม.ขอนแก่น รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน เปิดเผยว่า โดยกฎหมายแล้วมติของกกอ.ที่ให้มีคณะกรรมการควบคุม ม.อีสาน มีศักดิ์และสิทธิ์ใหญ่กว่าของ พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้นในความเข้าใจคิดว่าสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และอาจารย์ทั้งหมดต้องพ้นจากหน้าที่ไป ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งคงมีช่องว่างประมาณ 1-3 วัน ระหว่างรอการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่ามติของคณะกรรมการ กกอ.เป็นยาแรง แต่ที่ห่วงคือนักศึกษาปัจจุบันที่อยู่ในระบบหลายหลักสูตร หลายคณะ จำนวนเป็นพันๆ คน จะเดินหน้าต่อ และจะเปิดให้มีการรับนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2554 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการควบคุม
ด้าน นายสุเมธ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแห่งเดียว แต่ตนอยากให้เป็นกรณีแรกและกรณีสุดท้ายที่จับได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะขยายผลไปยังมหาวิทยาลัย 77 แห่ง ที่เปิดศูนย์นอกสถานศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัย 1 แห่ง ไม่ได้เปิดแค่ศูนย์เดียวแต่เปิดหลายศูนย์
ขณะที่นพ.กำจร กล่าวว่า วันนี้มีนักศึกษา 4 รายโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ข้อมูล เพราะเกรงว่าจะถูกเอาผิดทางอาญาที่ ซื้อขาย ป.บัณฑิต ตนแจ้งไปว่าให้นำหลักฐานมายื่นได้ 3 แห่ง คือ สกอ. คุรุสภา หรือสำนักงานอธิการบดี (ตึกเก่า) มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจะกันไว้เป็นพยาน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักศธ.ในวันที่ 28 เม.ย. นี้ เพื่อประมวลผล โดยขณะนี้คณะกรรมการที่ศธ.ตั้งขึ้นเข้าไปตรวจสอบ และทางคุรุสภาก็ขยายผลในการสืบสวน ทั้งจากพยาน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มาขอข้อมูลไปตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องดูว่ากำหนดมูลฐานความผิดไปถึงด้านใดบ้าง แม้แต่สภามหาวิทยาลัย ถ้าพบว่า ร่วมกระทำความผิด ก็ต้องถูกดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น
วานนี้ (27 เม.ย.) นายภาวิช ทองโรจน์ รองประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)พร้อมด้วย นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และนพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา นัดพิเศษ โดยนายภาวิช กล่าวว่า ที่ประชุม กกอ.มีมติ 3 ประเด็น คือ 1. เสนอรัฐมนตรี ให้มหาวิทยาลัยอีสาน จ.ขอนแก่น อยู่ในควบคุมคุมของ สกอ. 2.เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม เข้ามาบริหารมหาวิทยาลัยอีสานแทนผู้บริหาร และสภามหาวิทยาลัย และ 3.เสนอลงโทษเปรียบเทียบปรับอธิการบดี จำนวน 200,000 บาท แยกเป็นกรณีอธิการบดีไม่แยกทะเบียนบัณฑิตปกติกับบัณฑิตที่ ซื้อขาย ป.บัณฑิตจำนวน 100,000 บาท อีก 100,000 บาท สกอ.พบว่าไม่ได้แจ้งการพ้นสภาพคณาจารย์ที่ขอเปิดหลักสูตรชุดเก่า ซึ่งการตั้งคณาจารย์ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ชุดเก่า จะต้องแจ้งให้ สกอ.ทราบ ซึ่งมีความผิดตาม มาตรา 77
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเสนอรายชื่อคณะกรรมการควบคุม จำนวน 17 คน โดยมี นายสมนึก พิมลเสถียร อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ที่ดูแลด้านการศึกษา เป็นประธาน นพ.กำจร เป็นเลขานุการและกรรมการ และรายชื่อคณะกรรมการหลายท่านอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้ จะนำรายชื่อคณะกรรมการควบคุมเสนอให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามต่อไป โดยคณะกรรมการควบคุมจะเข้ามาบริหารแทนบุคคลเหล่านี้ เพื่อไม่ให้สะดุด
นายภาวิช กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสภามหาวิทยาลัย ม.อีสาน ได้แต่งตั้งรักษาการอธิการบดี แทนอธิการบดี ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไป ซึ่งคณะกรรมการควบคุม จะต้องไปพิจารณาว่า รักษาการอธิการบดี เหมาะสมดำรงตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ หากพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม ก็ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งรักษาการขึ้นในช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ นายภาวิช กล่าวว่า นายกสภามหาวิทยาลัยสามารถแต่งตั้งได้ เพื่อให้การผู้บริหารเกิดความต่อเนื่อง หากคณะกรรมการควบคุมเข้าไปบริหารงานแทนแล้วจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้ทำหน้าที่ต่อไป หรือจะเลือกผู้อื่นมาดำรงตำแหน่ง
ศ.เกียรติคุณ ดร.สุมนต์ สกลไชย อดีตอธิการ ม.ขอนแก่น รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสาน เปิดเผยว่า โดยกฎหมายแล้วมติของกกอ.ที่ให้มีคณะกรรมการควบคุม ม.อีสาน มีศักดิ์และสิทธิ์ใหญ่กว่าของ พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ดังนั้นในความเข้าใจคิดว่าสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และอาจารย์ทั้งหมดต้องพ้นจากหน้าที่ไป ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งคงมีช่องว่างประมาณ 1-3 วัน ระหว่างรอการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่ามติของคณะกรรมการ กกอ.เป็นยาแรง แต่ที่ห่วงคือนักศึกษาปัจจุบันที่อยู่ในระบบหลายหลักสูตร หลายคณะ จำนวนเป็นพันๆ คน จะเดินหน้าต่อ และจะเปิดให้มีการรับนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2554 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการควบคุม
ด้าน นายสุเมธ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแห่งเดียว แต่ตนอยากให้เป็นกรณีแรกและกรณีสุดท้ายที่จับได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะขยายผลไปยังมหาวิทยาลัย 77 แห่ง ที่เปิดศูนย์นอกสถานศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัย 1 แห่ง ไม่ได้เปิดแค่ศูนย์เดียวแต่เปิดหลายศูนย์
ขณะที่นพ.กำจร กล่าวว่า วันนี้มีนักศึกษา 4 รายโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ข้อมูล เพราะเกรงว่าจะถูกเอาผิดทางอาญาที่ ซื้อขาย ป.บัณฑิต ตนแจ้งไปว่าให้นำหลักฐานมายื่นได้ 3 แห่ง คือ สกอ. คุรุสภา หรือสำนักงานอธิการบดี (ตึกเก่า) มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจะกันไว้เป็นพยาน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คุรุสภา และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักศธ.ในวันที่ 28 เม.ย. นี้ เพื่อประมวลผล โดยขณะนี้คณะกรรมการที่ศธ.ตั้งขึ้นเข้าไปตรวจสอบ และทางคุรุสภาก็ขยายผลในการสืบสวน ทั้งจากพยาน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มาขอข้อมูลไปตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องดูว่ากำหนดมูลฐานความผิดไปถึงด้านใดบ้าง แม้แต่สภามหาวิทยาลัย ถ้าพบว่า ร่วมกระทำความผิด ก็ต้องถูกดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น
