xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เผยคนไทยฆ่าตัวตายลดลง “เหนือตอนบน” ติดอันดับตายมากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
สธ.เผย ภาคเหนือตอนบนติดอันดับฆ่าตัวตายสูง เหตุเป็นโรคซึมเศร้า ชี้ เหล้าเป็นปัจจัยกระตุ้น ส่ง อสม.เยี่ยมบ้านพูดคุยให้การรักษาผู้ป่วยของต่อเนื่อง แนะควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และหมั่นออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายของคนไทย ว่า ปัจจุบันนี้ถือว่าลดลง โดยปี 2553 อยู่ที่ 5.71 แสนรายต่อประชากร เมื่อเทียบกับปี 2552 อยู่ที่ 5.97 รายต่อแสนประชากร ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตราการฆ่าตัวตายกับประเทศแถบเอเซีย ถือว่าไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายต่ำกว่าประเทศอื่น อัตราความชุกของจังหวัดที่มีประชากรฆ่าตัวตายยังคงอยู่ในภาคเหนือตอนบน แต่โดยรวมถือว่าสถานการณ์ของประเทศดีขึ้น แต่ สธ.มีความพยายามในการลดปัจจัยเสี่ยงเพื่อทำให้ความสูญเสียจากการฆ่าตัวตายลดลงด้วย เช่น การใช้โครงการป้องกันการฆ่าตัวตายโดยการให้ อสม.เยี่ยมบ้านพูดคุย การให้การรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้โรงพยาบาลเพิ่มการรักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำโครงการที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงก็พบว่าได้ผลดี เช่น ถนนปลอดเหล้า งานเทศกาลปลอดเหล้า เพราะเหล้าถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการฆ่าตัวตาย ซึ่งพบว่าการดำเนินมาตรการเหล่านี้ช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายลงได้อย่างมาก

นพ.อภิชัย กล่าวด้วยว่า อัตราการฆ่าตัวตายสูงใน 10 จังหวัดแรก ของปี 2553 ต่อแสนประชากร ได้แก่ ลำพูน 19.77 ราย แม่ฮ่องสอน 14.45 ราย เชียงราย 14.04 ราย น่าน 12.61 ราย เชียงใหม่ 12.28 ราย จันทบุรี 11.5 ราย แพร่ 11.05 ราย อุตรดิตถ์ 9.94 ราย ระยอง 9.69 ราย พะเยา 9.45 ราย ซึ่งพบว่า จ.ลำพูน มีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ 13.58 รายต่อแสนประชากร

“ปัจจัยที่ทำให้เกิดการฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียด จะพบปัจจัยของโรคซึมเศร้าร่วมด้วยเสมอ ส่วนสาเหตุอื่นๆ เป็นตัวกระตุ้น เช่น ความผิดหวังจากความรัก การเรียน แต่สาเหตุสำคัญที่พบบ่อย คือ การดื่มเหล้า ดังนั้น หากมีญาติป่วยเป็นโรคนี้ควรแนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อย วันละ 30 นาที”นพ.อภิชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น