อย.ตรึงมาตรการคุมเข้มอาหารนำเข้าจากญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังออกประกาศฯ ซึ่งหากผู้นำเข้าไม่มีเอกสารตามประกาศฯ กำหนด อย.จะไม่ตรวจผ่านสินค้าจนกว่าจะมีเอกสารมาแสดง เผย ขณะนี้มีอาหาร ณ ด่านอาหารและยา ที่ไม่ตรวจผ่านจำนวน 22 ใบขนสินค้า แจงขณะนี้จำนวนอาหารที่ อย.สุ่มตรวจหาสารกัมมันตรังสี มียอดสะสมทั้งสิ้น 311 ตัวอย่างได้รับผลตรวจวิเคราะห์หาสารกัมมันตรังสีแล้ว 297 ตัวอย่าง ผลการตรวจทุกรายการอยู่ในระดับ “ปกติ”
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ดำเนินการเฝ้าระวังอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 2 ฉบับ อย่างเคร่งครัด โดยผู้นำเข้าอาหารทุกประเภทจาก 12 จังหวัด จะต้องระบุประเภท ชนิดอาหาร ปริมาณกัมมันตรังสี (Certificate of Analysis) และพื้นที่การผลิตจากห้องแล็ปของรัฐ หรือเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น/ ได้มาตรฐานสากล กรณีนำเข้าอาหารจากพื้นที่นอกเหนือจาก 12 จังหวัด ผู้นำเข้าจะต้องมีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด ของสินค้าที่มีการเพาะปลูก หรือเพาะเลี้ยง หรือผลิต (Certificate of Origin) จากหน่วยงานของรัฐมาแสดง
เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า อย.ได้ดำเนินมาตรการตามประกาศกระทรวงฯ อย่างเคร่งครัด ซึ่งขณะนี้อาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่ยังไม่มีเอกสารมาแสดง และด่านอาหารและยา ไม่ตรวจผ่านสินค้า จำนวน 22 ใบขนสินค้า เป็นอาหารประเภท อาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็ง และ อาหารสำเร็จรูป ทั้งนี้ หากผู้นำเข้าอาหารทุกประเภทจากประเทศญี่ปุ่นไม่มีเอกสารตามประกาศกระทรวงมาแสดง เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยา จะไม่ตรวจผ่านจนกว่าผู้นำเข้าจะแสดงเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจของผู้บริโภค และปกป้อง คุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ได้รับสินค้าที่ไม่ปลอดภัย อย.จะยังคงให้ตรวจหาสารกัมมันตรังสี หากผู้นำเข้าอาหารจากญี่ปุ่นไม่ทราบแหล่งกำเนิดของสินค้า ซึ่งขณะนี้ อย.ได้สุ่มตรวจหาสารกัมมันตรังสี ในอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน มียอดสะสม จำนวน 311 ตัวอย่าง และได้รับผลตรวจหา สารกัมมันตรังสี ณ วันที่ 25 เมษายน 2554 จำนวน 297 ตัวอย่าง เช่น ประเภทอาหารทะเล 219 ตัวอย่าง ผัก 21 ตัวอย่าง ผลไม้ 15 ตัวอย่าง และอาหารประเภทอื่นๆ อาทิ ข้าว งา วาซาบิ เนย เป็นต้น จำนวน 42 ตัวอย่าง ผลการตรวจวิเคราะห์หาสารกัมมันตรังสีพบว่า ทุกรายการอยู่ในระดับ “ปกติ”
เลขาธิการ อย.กล่าวอีกว่า ขอผู้บริโภควางใจการดำเนินงานของ อย.ซึ่ง อย.ได้ติดตามสถานการณ์รอบด้านอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น อย.อาจปรับระดับการคุมเข้มอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้มงวดมากขึ้นตามลำดับ และขอบคุณผู้นำเข้าที่ให้ความร่วมมือกับ อย. ในการร่วมมือกันคุ้มครองผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม อย.จะรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ และสถานการณ์ความคืบหน้าให้ประชาชนได้ทราบผ่านทุกสื่อ รวมทั้ง เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และ Social Media: Facebook: Fda Thai และ Twitter: FDAthai อย่างต่อเนื่อง
