“จุรินทร์” ขอความร่วมมือร้านขายยา ทำตามนโยบาย 4 ข้อ มีเภสัชกรประจำร้าน และให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้ชมรมร้านขายยาเพิ่มร้านขายยาคุณภาพให้มากขึ้น รวมทั้งร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเล็งออกกฎหมายควบคุมการซื้อ-ขาย ยาแก้หวัดผสมซูโดเอฟฟิดีน
วันนี้ (24 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดประชุมชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทยประจำปี 2554 และให้สัมภาษณ์ว่า ได้ขอความร่วมมือร้านขายยาทั่วประเทศปฏิบัติตามนโยบาย 4 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ร้านขายยาทั่วประเทศมีเภสัชกรประจำร้าน เพราะมิเช่นนั้นในอนาคตจะสู้ร้านขายยาข้ามชาติ หรือร้านขายยายักษ์ใหญ่ ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศไม่ได้ ขณะเดียวกัน ประชาชนทั่วไปก็มีความต้องการขอคำปรึกษาเรื่องยาและตระหนักถึงการใช้ยาที่มีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากสังคมมีความเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนมีความรู้สูงขึ้น ดังนั้นร้านขายยาทั่วประเทศ จึงต้องมีการปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม
2.ขอให้ร้านขายยาแต่ละประเภท ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างจริงจัง โดยเฉพาะร้านขายยาประเภทที่ 2 ที่ห้ามขายยาอันตราย และห้ามขายยาควบคุมพิเศษ เนื่องจากต้องมีแพทย์สั่งเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา ปรากฏว่า บางร้านไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย
3.ให้ชมรมร้านขายยา ช่วยกันเพิ่มจำนวนร้านขายยาคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันยังมีจำนวนน้อยมากเพียงร้อยละ 3 และ 4.ขอความร่วมมือในการช่วยรัฐบาล แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า เพราะขณะนี้มียากลุ่มหนึ่งที่ขายอยู่ในร้านขายยา คือ ยาแก้หวัดผสมซูโดเอฟฟิดีน ซึ่งสามารถนำไปสกัดเป็นยาบ้าได้ โดยในอนาคตกระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุม จำกัดปริมาณการซื้อขาย โดยร้านขายยาขนาดเล็กจะซื้อยาดังกล่าวมาไว้จำหน่ายได้ไม่เกินเดือนละ 5,000 เม็ด ส่วนผู้บริโภคสามารถซื้อได้ไม่เกินเดือนละ 60 เม็ดต่อคน
ทั้งนี้ ทั่วประเทศมีร้านขายยา 17,821 แห่ง เป็นร้านขายยาประเภท 1 จำนวน 13,482 แห่ง ร้านขายยาประเภท 2 จำนวน 2,431 แห่ง ประเภท 3 จำนวน 423 แห่ง และร้านขายยาแผนโบราณ 1,485 แห่ง โดยเป็นร้านขายยาที่มีเภสัชกรปฏิบัติงานประจำเต็มเวลา จำนวน 2,821 แห่ง ซึ่งอยู่ใน กทม.770 แห่ง และอยู่ต่างจังหวัด 2,051 แห่ง ส่วนร้านขายยาคุณภาพขณะนี้มี 406 แห่ง