แพทย์เตือน เชื้อเอชพีวีอันตราย ทั้งต่อหญิงและชาย พบชายรักชายเสี่ยงติดเชื้อเอชพีวี เสี่ยงก่อเกิดมะเร็งรูทวาร ขณะที่เพศหญิงป่วยมะเร็งปากมูดลูก ยังสูงถึง 1 หมื่นราย เร่งรณรงค์ตรวจคัดกรองและฉีดวัคซีน
วันนี้ (19 เม.ย) ที่ รพ.ศิริราช กทม.มีการแถลงการจัดงานเสวนาเรื่อง “คิดผิด คิดใหม่ ป้องกันมะเร็งปากมดลูก” เพื่อรณรงค์เนื่องในงานสัปดาห์ป้องกันมะเร็งปากมูดลูก และลดจำนวนผู้ป่วยของโรคดังกล่าว โดย รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ของโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึงปีละประมาณ 10,000 ราย ซึ่งป่วยมากเป็นอันดับสอง รองจากมะเร็งเต้านม และในจำนวนนี้มีผู้ตายจากโรคดังกล่าวราว 5,000 ราย โดยโรคนี้เกิดจากเชื้อเอชพีวี (HPV) ที่มีการฟักตัวและก่อตัวเป็นมะเร็งอย่างช้าๆ กว่าจะแสดงอาการของโรคให้เห็นชัดก็ลามไปสู่ระยะที่อันตรายแล้ว ดังนั้น ในงานสัปดาห์ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกนี้ ทางองค์กรเครือข่ายจึงพยายามที่จะรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงมีการตรวจคัดกรองควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องกันให้มากขึ้น
ขณะที่ นพ.วิสิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล อุปนายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อเอชพีวี ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้ว โดยพบว่า ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วจะมีโอกาสรับเชื้อเอชพีวี ถึงร้อยละ 50-80 แม้จะมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียว หรือมีคู่นอนคนเดียวก็มีโอกาสติดเชื้อเอชพีวีได้ 2.กลุ่มที่มีลูกสาวอยู่ในช่วงเด็ก-วัยรุ่น กลุ่มนี้พ่อแม่จะไม่ให้ความสำคัญในการป้องกันโรคมากนัก เพราะเห็นว่าอายุยังน้อย ทั้งๆ ที่เป็นกลุ่มที่ป้องกันได้ดีที่สุด ซึ่งในต่างประเทศมีการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และ 3.กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ที่มีความมั่นใจในตัวเอง คิดว่า ตนไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อีกทั้งยังเข้าใจว่า การใช้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคนี้ได้ ซึ่งไม่สามารถป้องกันได้ 100% อย่างไรก็ตาม ไม่่ใช่แค่กลุ่มผู้หญิงเท่านั้น ที่เสี่ยงติดเชื้อไวรัสเอชพีวี แต่ยังพบในกลุ่มชายรักชาย เนื่องจากพบว่า รูทวารมีลักษณะใกล้เคียงกับปากมดลูก ทำให้โอกาสการรับเชื้อเอชพีวีทางทวารหนักสูงกว่า 50% ดังนั้น กลุ่มชายรักชายก็เสี่ยงติดเชื้อไวรัสดังกล่าวจนก่อเกิดมะเร็งรูทวารได้ด้วย ขณะเดียวกัน หากมีการทำออรัลเซ็กซ์ ซึ่งเป็นการมีเพศสัมพันธ์ด้วยปากก็อาจจะเสี่ยงเกิดมะเร็งช่องปากได้เช่นกัน
“ปัจจุบันประเทศไทยเปิดโอกาสให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีนั้น ให้ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 11 ปีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่ทั่วโลกนั้นให้ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 10 ปี เนื่องจากเชื้อดังกล่าวนั้นเป็นเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์” นพ.วิสิทธิ์ กล่าว