xs
xsm
sm
md
lg

“ชินวรณ์” ปลุก นศ.ตั้งเครือข่ายเรียกร้องสิทธิแย้มปริญญาปลอมสภามหา’ลัย เด้งกลางอากาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.
“ชินวรณ์” ปลุกนักศึกษาตั้งเครือข่าย เช็กใบปริญญาจากมหาวิทยาลัย หรือ สกอ.หากถูกละเมิดสิทธิ แนะฟ้องร้องแพ่ง-อาญา ฐานทำให้เสียสิทธิ ด้าน “สุเมธ” ยันมีหลักฐานนักศึกษาไม่ได้ฝึกสอน มีการปลอมแปลงเอกสาร แต่จะรออธิการบดีส่งประวัตินักศึกษาผลการเรียน 25 เม.ย.นี้ ตรวจสอบจริงหรือเท็จ หากตรวจสอบพบผิดจริง สภามหาวิทยาลัย จะถูกเด้งกลางอากาศ ขณะที่เลขาธิการคุรุสภา เผย เร่งติดตามตรวจสอบการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ป.บัณฑิตมหาวิทยาลัยเอกชนในภาคอีสาน

วันนี้ (18 เม.ย.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงว่า ที่ประชุมได้รายงานการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นในกรณีที่มหาวิทยาลัยเอกชน มีการปลอมและกล่าวหาว่ามีการซื้อขายปริญญา โดยเริ่มต้นจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา แจ้งว่าได้รับหลักฐานจากบุคคล 4 คนได้รับหลักฐานรับรองการสำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตร จากมหาวิทยาลัยเอกชน ด้วยการจ่ายเงิน 45,000-50,000 บาทต่อราย ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริง และวันนี้ สกอ.ได้รายงานผลเบื้องต้นว่าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เชิญอธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย เลขานุการบัณฑิตวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นได้ข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการของมหาวิทยาลัยดังกล่าว มีมูลในการนำไปสู่การปลอมแปลงเอกสารหลักฐาน ทั้งในส่วนของการออกใบแสดงผลการเรียน แบบประเมินผลในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ใบเสร็จรับเงินค่าหน่วยกิต รวมถึงไม่มีการจัดทำทะเบียนนักศึกษา ไม่จัดทำแฟ้มประวัตินักศึกษา ถ้าหากมีกรณีความผิดกรณีดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.เอกชน พ.ศ. 2546 อาจจะนำไปสู่การดำเนินการที่จะสั่งการให้สถาบันอุดมศึกษาอยู่ในความควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) พ.ร.บ.เอกชน พ.ศ. 2546 มาตรา 86 (2)

นายชินวรณ์กล่าวด้วยว่า ตนมอบหมายให้ สกอ.ตรวจสอบ เพราะถือว่าคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่จะต้องเร่งรัดในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการแก่ผู้กระทำผิด พร้อมทั้งขยายผลกับมหาวิทยาลัยที่ได้มีข้อกล่าวหาและมหาลัยอื่นๆ ที่จะนำไปสู่ขบวนการซื้อขายปริญญา หรือออกปริญญาไม่ได้ตามมาตรฐานหลักสูตร

“ผมอยากถือโอกาสเรียนกับนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยที่ตนเองคิดว่า มหาวิทยาลัยมีปัญหาเรื่องออกใบปริญญาบัตร ขอให้ไปตรวจสอบกับมหาวิทยาลัย หรือไม่มั่นใจให้ตรวจสอบที่ สกอ. นอกจากนี้ ผมได้ประกาศสิทธิขั้นพื้นฐานในระดับอุดมศึกษา ขอเชิญชวนนักศึกษารวมกลุ่มกันตั้งเครือข่ายเพื่อดำเนินการฟ้องร้องที่ทำให้นักศึกษาต้องเสียสิทธิ หรือละเมิดสิทธิ ทำให้เสียหายทั้งทางแพ่ง อาญา ซึ่ง ศธ.ยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุน เพื่อถอนรากถอนโคนขบวนการดังกล่าวให้หมดไปจากระบบการศึกษาของไทยต่อไป” นายชินวรณ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเปิดเผยชื่อมหาวิทยาลัยได้หรือยัง นายชินวรณ์กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รอให้กระบวนการสอบสวนแล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ตนได้ทำหนังถึง รมว.ยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแบบถอนรากถอนโค่นด้วย ดังนั้น ขอให้คณะกรรมการได้ไปดำเนินการสอบสวน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก ตนสั่งการให้ เลขาธิการ สกอ.ขยายผลไปยังมหาวิทยาลัยอื่นด้วยที่มีพฤติกรรมนำไปสู่การออกปริญญาบัตรไม่ได้มาตรฐาน หรืออาจจะมีการซื้อขาย หากกำลังของ สกอ.ไม่พอก็ให้ประสานกับกรมสอบสวนพิเศษ ตนต้องการทำให้ครบวงจรและไม่ต้องการให้ขบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของระบบการศึกษาไทย ส่วนคุรุสภาที่มีส่วนได้เสียโดยตรงและเป็นหน่วยงานที่จะต้องดูแลมาตรฐานวิชาชีพครู ถ้าพบว่ามหาวิทยาลัยใดก็แล้วมีลักษณะเข้าข่ายน่าสงสัย ให้คุรุสภาส่งให้ สกอ.เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเข้าไปตรวจสอบต่อไป

นายชินวรณ์กล่าวอีกว่า ตามมาตรา 86 วรรค 2 เมื่อรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการอุดมศึกษา มีอำนาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนอยู่ในความควบคุมของ สกอ.และให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน โดยมีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน และไม่เกิน 15 คน ทำหน้าที่แทนสภาสถาบัน และให้ประกาศคำสั่งควบคุมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในหนังสือพิมพ์รายวัน ภาษาไทย ไม่น้อยกว่า 3 วัน หลังจากนั้นอำนาจก็มาอยู่ที่คณะกรรมการควบคุมสถาบันซึ่งจะดำเนินการต่อไปตามขบวนการของกฎหมาย ใครมีความผิดอย่างไร จากผลการสอบสวน

นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่รายงานครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์เชิงกฎหมาย ต้องรอให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สรุปและชี้มูลความผิดมาให้ชัดเจน ซึ่งคณะกรรมการจะสรุปในวันที่ 25 เม.ย.นี้ เพราะต้องรอเอกสารบางส่วนจากท่านอธิการบดี หลังจากนั้นคณะกรรมการรายงานเข้ามา สกอ.จะรายงานต่อ รมว.ศธ. และเสนอประเด็นให้ท่านวินิจฉัยตาม พ.ร.บ. ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การเข้าไปควบคุม

“ถ้าเป็นไปอย่างที่เราวางแผนไว้ จะนัดประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา นัดพิเศษ วันที่ 27 เม.ย. เพื่อพิจารณาวาระนี้ก่อนที่จะเสนอ รมว.ศธ.เพื่อวินิจฉัยต่อไป” นายสุเมธกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า อธิการบดียืนยันว่าไม่มีการขายใบปริญญา ซึ่งหลักฐานที่มีอยู่จะเอาผิดได้มากน้อยแค่ไหน นายสุเมธกล่าวว่า ต้องนิยามให้ชัด การซื้อขายปริญญาก็คือ เดินไปที่มหาวิทยาลัย จ่ายเงินแล้วได้ปริญญามาโดยที่ไม่ได้เรียน เราตีความอย่างนั้น ซึ่งเรากำลังจะพิสูจน์กรณีนี้ ทั้งนี้เราจะต้องพิสูจน์ว่าคนเหล่านี้ไปเรียนหนังสือรึเปล่า จะต้องมีหลักฐานตั้งแต่การสมัครเข้าเรียน มหาวิทยาลัยต้องเก็บ ทำทะเบียนนักศึกษา ซึ่งขณะนี้เราตรวจสอบแล้วไม่มีทะเบียนนักศึกษาปรากฏ นอกจากนี้เราจะตรวจสอบผลการสอบ ผลการเรียน ป.บัณฑิตต้องใช้เวลาเรียน 2 ภาคการศึกษา หรือ 1 ปี ขณะเดียวกันจะต้องไปฝึกปฏิบัติการวิชาชีพ 1 ปี ขณะนี้เราได้หลักฐานว่าการประเมินผลการฝึกสอนที่โรงเรียนเป็นเอกสารปลอม เป็นการปลอมลายเซ็นผู้อำนวยการโรงเรียน ปลอมลายเซ็นครูซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล ตรงนี้ชี้ชัดว่าไม่ได้ไปฝึกสอนจริงกับโรงเรียนแห่งนั้น แต่มหาวิทยาลัยยืนยันว่าได้ไปฝึกและไปประเมิน

นายสุเมธกล่าวต่อว่า นักศึกษาไม่ว่าจะมหาวิทยาลัยรัฐหรือเอกชน ในการประเมินผลการเรียนแต่ละภาค เทอมนี้เรียน 3 วิชา 4 วิชา ซึ่งการประเมินจะต้องมีการสอบ มีข้อสอบ มีคะแนนที่ผู้สอนเป็นคนให้ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้จะต้องเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ผมกำลังรอหลักฐานการเข้าเรียนของเด็ก หลักฐานการสอบของเด็ก ซึ่งอธิการบดีแจ้งว่าจะมอบให้วันที่ 25 เม.ย. ทาง สกอ.จะพิสูจน์ว่าเป็นเอกสารจริงหรือเท็จ

ถามว่า ในส่วนของสภามหาวิทยาลัยจะมีความผิดละเลยต่อหน้าที่แล้ว สกอ.สามารถเข้าไปควบคุม หรือยุติการปฏิบัติหน้าที่ นายสุเมธกล่าวว่า ตอนนี้ชี้ประเด็นความรับผิดชอบไปที่อธิการบดี ตามที่กฎหมายกำหนดตามที่อธิการบดีไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน ส่วนสภามหาวิทยาลัย เขาเป็นผู้กำหนดนโนบาย เป็นผู้กำกับดูแล และหลังจากที่เราตรวจสอบแล้ว ถ้า รมว.ศธ.มีวินิจฉัยให้คณะกรรมการเข้าไปควบคุม ถือว่าเป็นการยกเลิกสภามหาวิทยาลัยไปโดยปริยาย

ถามต่อว่า ความผิดตามกฎหมายสภามหาวิทยาลัยจะต้องเข้าไปร่วมรับผิดชอบหรือไม่ นายสุเมธกล่าวว่า ต้องดูแนวทางการสอบสวนก่อน ขณะนี้ยังวินิจฉัยไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตามกฎหมายจะควบคุมได้นานเท่าไหร่ นายสุเมธกล่าวว่า ตามกฎหมายไม่ได้กำหนด แต่เราวางระบบเข้าที่เข้าทางแล้ว จึงจะมอบให้กับผู้ถือใบอนุญาตเข้าไปดำเนินการต่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการหลายฝ่าย จากนั้น สกอ.จะวินิจฉัยกลั่นกรอง ก่อนที่จะเสนอ รมว.ศธ.ให้ถอดถอนการควบคุม

ขณะที่นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาตนได้ประชุมคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรป.บัณฑิตมหาวิทยาลัยเอกชนในภาคอีสานแห่งหนึ่งเพื่อทำความเข้าใจและให้ข้อมูลแก่ผู้แทนคุรุสภาที่จะช่วยลงไปตรวจสอบข้อมูล โดยช่วงแรกคุรุสภาจะลงไปตรวจสอบข้อมูลในโรงเรียน 100 แห่งใน จ.ขอนแก่น ที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวได้แจ้งข้อมูลเข้ามาว่าได้ส่งนักศึกษาไปฝึกสอนในโรงเรียนเหล่านั้นมีการไปฝึกปฏิบัติการสอนตามที่กำหนดไว้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ ตรวจสอบได้ง่ายกว่าซึ่งคุรุสภาได้ทำหนังสือให้กับผู้แทนคุรุสภาไปมอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อเข้าไปตรวจสอบด้วยโดยหนังสือดังกล่าวจะสอบถามว่าทางโรงเรียนรับนักศึกษาปฏิบัติการสอนป.บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยใดบ้าง ทั้งนี้ตนขอให้ผู้บริหาร ครู อาจารย์ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงเพราะหากมีการช่วยเหลือมหาวิทยาลัยดังกล่าวด้วยการโกหกว่ามีการฝึกสอนจริงก็ยังสามารถตรวจสอบไปที่นักเรียนได้ว่ามีการฝึกปฏิบัติการสอนจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะขยายการตรวจสอบไปยังโรงเรียนในภาคอีสาน เช่น จ.อุดรธานี เลย หนองคาย มหาสารคาม บุรีรัมย์ ฯลฯ

“ข้อมูลที่มหาวิทยาลัยเอกชนแจ้งรายชื่อโรงเรียนที่นักศึกษาจำนวน 1,349 คนไปฝึกสอนนั้นพบว่าโรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 180 คน ครู 11 คนแต่กลับให้นักศึกษาไปฝึกสอนที่จำนวน 34 คนซึ่งก็น่าสงสัยว่าจะไปฝึกสอนกันได้อย่างไร” เลขาธิการคุรุสภากล่าว

นายองค์กร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คุรุสภายังได้ตรวจรายชื่ออาจารย์ผู้สอนในหลักสูตรป.บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้โดยได้ข้อมูลจากอาจารย์ผู้สอน 3 คนพบว่าไม่ได้เป็นอาจารย์สอนให้กับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งอาจารย์คนหนึ่งที่ถูกอ้างชื่อให้ข้อมูลกับตนว่าตารางสอนที่ทางมหาวิทยาลัยแจ้งมาจัดให้อาจารย์คนดังกล่าวสอนในเวลาเดียวกันถึงสองห้อง จากข้อมูลเพียงแค่นี้ทำให้มั่นใจว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนที่โมเมขึ้นมา อย่างไรก็ตาม 20 เมษายนนี้ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะลงไปสอบปากคำนักศึกษา 4 รายที่กันไว้เป็นพยานเพิ่มเติมอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น