เชื่อหรือไม่ว่า “ฟองน้ำ” หรือ “แผ่นใยขัดล้างจาน” ที่ใช้กันอยู่ในทุกครัวเรือนและตามร้านอาหารต่างๆ หากทำความสะอาดไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นแหล่งสะสม ขยายพันธุ์ และเป็นพาหะของเชื้อแบคทีเรีย ไปสู่เครื่องใช้ในครัวเรือน ทั้งจาน ชาม ช้อน ส้อม ฯลฯ ที่เรามั่นใจว่าล้างทำความสะอาดแล้วเป็นอย่างดี
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/554000005061301.JPEG)
สำหรับแบคทีเรียที่แฝงอยู่ใน “แผ่นใยขัดล้างจาน” หรือ “ฟองน้ำ” นั้น สามารถทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ โรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งเกิดจากการเพาะบ่มของเชื้อแบคทีเรีย “ซัลโมเนลล่า” ที่ติดมากับวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ฯลฯ โดยสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขปี 2552 ชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากการเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ สะท้อนจากตัวเลขของผู้ป่วยตลอดปี 2552 พบว่ายังคงมีผู้ป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษมากกว่า 1 แสนรายต่อปี!!
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/554000005061302.JPEG)
ทีมนักวิจัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยถึงอันตรายจากปริมาณแบคทีเรียที่พบในแผ่นใยขัดและฟองน้ำทำความสะอาดภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์ประกอบอาหารว่าสิ่งที่ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียตกค้างบนแผ่นใยขัดและฟองน้ำ แท้ที่จริงแล้วเกิดจากการดูแลรักษาและทำความสะอาดที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้เกิดการเพาะบ่มของเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา ที่ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่างๆ อาทิ โรคอาหารเป็นพิษ และโรคอุจจาระร่วง ซึ่งเมื่อนำแผ่นใยขัดและฟองน้ำไปทำความสะอาดภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์ประกอบอาหาร ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เชื้อแบคทีเรียจากแผ่น ใยขัดและฟองน้ำนั้นๆ อาจติดไปกับภาชนะ อีกทั้งสภาพอากาศของประเทศไทยที่เอื้อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย จึงยิ่งทำให้เกิดการแพร่กระจายและเพิ่มปริมาณแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/554000005061303.JPEG)
“วิธีการลดหรือทำลายเชื้อแบคทีเรียในแผ่นใยขัดล้างจาน หรือฟองน้ำ มีหลายวิธีด้วยกัน แนะนำว่าควรทำหลังจากที่ผ่านการล้างทำความสะอาดภาชนะอุปกรณ์ต่างๆ มาแล้ว โดย 1) การใช้ความร้อน โดยนำแผ่นใยขัดหรือฟองน้ำที่ผ่านการล้างภาชนะในแต่ละวัน ล้างน้ำเปล่าให้สะอาดแล้วนำไปตากแดดจัดทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถเห็นผลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากทำในช่วงเวลาที่ไม่มีแดด ส่วนอีกวิธี คือ 2) การใช้ความเป็นกรด โดยนำกรดน้ำส้มหรือน้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งลิตร แล้วนำแผ่นใยขัดหรือฟองน้ำที่ผ่านการล้างภาชนะในแต่ละวันมาแช่ทิ้งไว้ค้างคืน และเปลี่ยนน้ำส้มสายชูใหม่ทุกวัน ภาวะที่มีความเป็นกรดสูงนั้นจะช่วยให้สามารถลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยแก่การบริโภคได้ และวิธีสุดท้ายก็คือ 3) การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีส่วนผสมในการช่วยขจัดและป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในแผ่นใยขัดล้างจานหรือฟองน้ำ ซึ่งให้ผลยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียซัมโมเนลลา รวมทั้งเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย คือ การดูแลรักษาบริเวณห้องครัวให้สะอาดและมีสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ รวมทั้งการใส่ใจกับการทำความสะอาดฟองน้ำหรือแผ่นใยขัดล้างจาน ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าจะสะดวกใช้วิธีไหน ที่สำคัญ คือ ควรเน้นที่ความปลอดภัยและความมั่นใจของแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวรวมทั้งผู้บริโภคในสถานประกอบการร้านอาหารทั้งที่อยู่ในสถาบันการศึกษา และในร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศปลอดภัยห่างไกลจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร”ทีมนักวิจัยกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับแบคทีเรียที่แฝงอยู่ใน “แผ่นใยขัดล้างจาน” หรือ “ฟองน้ำ” นั้น สามารถทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ โรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งเกิดจากการเพาะบ่มของเชื้อแบคทีเรีย “ซัลโมเนลล่า” ที่ติดมากับวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ฯลฯ โดยสถิติจากกระทรวงสาธารณสุขปี 2552 ชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากการเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ สะท้อนจากตัวเลขของผู้ป่วยตลอดปี 2552 พบว่ายังคงมีผู้ป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษมากกว่า 1 แสนรายต่อปี!!
ทีมนักวิจัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยถึงอันตรายจากปริมาณแบคทีเรียที่พบในแผ่นใยขัดและฟองน้ำทำความสะอาดภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์ประกอบอาหารว่าสิ่งที่ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียตกค้างบนแผ่นใยขัดและฟองน้ำ แท้ที่จริงแล้วเกิดจากการดูแลรักษาและทำความสะอาดที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้เกิดการเพาะบ่มของเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา ที่ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารต่างๆ อาทิ โรคอาหารเป็นพิษ และโรคอุจจาระร่วง ซึ่งเมื่อนำแผ่นใยขัดและฟองน้ำไปทำความสะอาดภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์ประกอบอาหาร ทำให้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เชื้อแบคทีเรียจากแผ่น ใยขัดและฟองน้ำนั้นๆ อาจติดไปกับภาชนะ อีกทั้งสภาพอากาศของประเทศไทยที่เอื้อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย จึงยิ่งทำให้เกิดการแพร่กระจายและเพิ่มปริมาณแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว
“วิธีการลดหรือทำลายเชื้อแบคทีเรียในแผ่นใยขัดล้างจาน หรือฟองน้ำ มีหลายวิธีด้วยกัน แนะนำว่าควรทำหลังจากที่ผ่านการล้างทำความสะอาดภาชนะอุปกรณ์ต่างๆ มาแล้ว โดย 1) การใช้ความร้อน โดยนำแผ่นใยขัดหรือฟองน้ำที่ผ่านการล้างภาชนะในแต่ละวัน ล้างน้ำเปล่าให้สะอาดแล้วนำไปตากแดดจัดทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถเห็นผลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากทำในช่วงเวลาที่ไม่มีแดด ส่วนอีกวิธี คือ 2) การใช้ความเป็นกรด โดยนำกรดน้ำส้มหรือน้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งลิตร แล้วนำแผ่นใยขัดหรือฟองน้ำที่ผ่านการล้างภาชนะในแต่ละวันมาแช่ทิ้งไว้ค้างคืน และเปลี่ยนน้ำส้มสายชูใหม่ทุกวัน ภาวะที่มีความเป็นกรดสูงนั้นจะช่วยให้สามารถลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยแก่การบริโภคได้ และวิธีสุดท้ายก็คือ 3) การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีส่วนผสมในการช่วยขจัดและป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในแผ่นใยขัดล้างจานหรือฟองน้ำ ซึ่งให้ผลยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียซัมโมเนลลา รวมทั้งเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย คือ การดูแลรักษาบริเวณห้องครัวให้สะอาดและมีสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ รวมทั้งการใส่ใจกับการทำความสะอาดฟองน้ำหรือแผ่นใยขัดล้างจาน ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าจะสะดวกใช้วิธีไหน ที่สำคัญ คือ ควรเน้นที่ความปลอดภัยและความมั่นใจของแต่ละบุคคล เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวรวมทั้งผู้บริโภคในสถานประกอบการร้านอาหารทั้งที่อยู่ในสถาบันการศึกษา และในร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศปลอดภัยห่างไกลจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร”ทีมนักวิจัยกล่าวทิ้งท้าย