ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สถานการณ์นักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ป่วยยังไม่นิ่งหลังตัวเลขขยับต่อเนื่อง ล่าสุดกระจายเด็กรักษาทั้งที่ ร.ร.-รพ. ทยอยให้น้ำเกลือ-ยาฆ่าเชื้อพร้อม เฝ้าดูอาการ ด้านนายแพทย์ สสจ.คาดเชื้อ “ซัลโมเนลลา” เป็นต้นเหตุ ระบุรู้ผลตรวจสอบไม่เกินพรุ่งนี้ หวั่นสถานการณ์อาจบานปลายหลังพบไข่บริจาคไปอีกหลายที่ เริ่มมีรายงานพบผู้ป่วยแล้ว
วันนี้ (10 ก.ค.) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายังโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมนักเรียนซึ่งป่วยจากอาการอาหารเป็นพิษ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของนักเรียนจากคณะสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การเดินทางมาเยี่ยมนักเรียนที่เจ็บป่วยของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ สืบเนื่องจากการที่นักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จำนวนมากเกิดอาการปวดท้องและท้องร่วงอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมาหลังจากรับประทานอาหารมื้อค่ำที่ทางโรงเรียนจัดให้ตามปกติ ต่อมาปริมาณผู้ป่วยได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการคัดกรองและให้การรักษาอย่างเร่งด่วน โดยสถานการณ์ล่าสุดมีการตั้งจุดคัดกรองและจุดดูแลผู้ป่วยภายในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ส่วนนักเรียนที่พบว่ามีอาการรุนแรงนั้นได้นำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเข้ารับการรักษาแล้ว
หม่อมหลวงปนัดดากล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมนักเรียนภายในจุดดูแลผู้ป่วยว่า จากการสอบถามนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ทราบว่าสาเหตุการเจ็บป่วยของนักเรียนเป็นจำนวนมากในครั้งนี้น่าจะเกิดจากการติดเชื้อซัลโมเนลลาที่อยู่ในอาหาร ซึ่งในขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาล และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยแล้ว รวมทั้งติดตามสถานการณ์เพื่อพยายามควบคุมไม่ให้การเจ็บป่วยดังกล่าวขยายวงกว้างออกไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต่อไปว่า จากการสอบถามทราบว่าอาหารที่อาจจะเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยในครั้งนี้มาจากการรับบริจาค ดังนั้นกรณีนี้จึงถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยทางจังหวัดจะได้มอบเป็นนโยบายไปยังสถาบันการศึกษาและสถานสงเคราะห์ต่างๆ ที่มีการรับบริจาคอาหาร ให้กำหนดกฎเกณฑ์ในการรับบริจาคอาหารและการดำเนินการกับอาหารที่ได้รับบริจาคให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก ขณะเดียวกันก็จะต้องขอความร่วมมือไปยังผู้บริจาคให้เพิ่มความระมัดระวังในการนำอาหารมาบริจาคด้วย เพราะแม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นไปด้วยเจตนาดี แต่หากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
ขณะที่นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การเจ็บป่วยของนักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ว่า สาเหตุการเจ็บป่วยของนักเรียนน่าจะเกิดจากการได้รับเชื้อซัลโมเนลลา ซึ่งมาจากการไข่ต้มที่โรงเรียนได้รับบริจาคเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอาการที่เกิดขึ้นคือนักเรียนมีอาการปวดท้องรุนแรง ท้องเสีย อาเจียน บางรายมีไข้สูง
ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ทำการคัดกรอง ให้การรักษา และติดตามดูอาการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ได้เปลี่ยนจากอาการอาหารเป็นพิษมาสู่การติดเชื้อในกระแสโลหิตแล้ว ดังนั้นจึงต้องเร่งให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อชนิดรุนแรงแก่นักเรียนที่มีอาการ ส่วนนักเรียนที่มีอาการหนักจะถูกส่งต่อไปรับการรักษาในโรงพยาบาลทันที เนื่องจากหากปล่อยให้เกิดอาการชักหรือช็อกหมดสติอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
นายแพทย์วัฒนากล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่เมื่อวานนี้ พบว่ามีนักเรียนส่วนหนึ่งที่อาการทุเลาลงและสามารถกลับบ้านได้แล้ว ขณะที่นักเรียนที่ยังมีอาการอยู่นั้นก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่โดยตลอด ประกอบกับนักเรียนส่วนใหญ่ที่ล้มป่วยถือเป็นนักเรียนโตที่มีสภาพร่างกายค่อนข้างแข็งแรง ทำให้หลายคนฟื้นตัวได้เร็ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีนักเรียนอีกส่วนหนึ่งที่รับประทานอาหารไปแล้วแต่ยังไม่แสดงอาการ
ส่วนการตรวจสอบหาสาเหตุของการเจ็บป่วยนั้น นายแพทย์วัฒนาระบุว่า ในเบื้องต้นคาดว่าอาหารที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยในครั้งนี้น่าจะเป็นไข่ต้มที่โรงเรียนได้รับบริจาคมา โดยจากการตรวจสอบพบว่าไข่ดังกล่าวมีการปรุงขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อนำไปใช้ทำพิธีแก้บน หลังจากนั้นจึงนำมามอบให้นักเรียนรับประทานในวันที่ 8 ก.ค. โดยนักเรียนเริ่มมีอาการเจ็บป่วยตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 8 ก.ค.เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ว่าไข่ดังกล่าวจะเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบได้เร็วที่สุดภายในเย็นวันนี้ หรือเช้าวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.)
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ที่นำไข่มาบริจาคให้นักเรียนรับประทาน โดยผู้บริจาคได้ให้รายละเอียดต่างๆ ที่จำเป็น รวมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วยว่ามีการบริจาคไข่ซึ่งมีเป็นจำนวนมากนับหมื่นฟองไปยังโรงเรียนหรือสถานสงเคราะห์อื่นๆ อีก 4-5 แห่งอีกด้วย ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กำลังติดตามเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า จนถึงขณะนี้มีตัวเลขผู้ป่วยจากเหตุดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 460 ราย แบ่งเป็นนักเรียนที่ป่วยแต่อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 290 ราย และนักเรียนที่รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 9 แห่ง และที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์รวม 170 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงมีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด เนื่องจากมีทั้งนักเรียนที่มีอาการเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาเพิ่มเติม รวมทั้งมีส่วนหนึ่งที่ถูกส่งตัวจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ไปรักษาต่อในโรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังพบว่า ขณะนี้เริ่มมีนักเรียนจากโรงเรียนและสถานสงเคราะห์อื่นๆ ที่ได้รับบริจาคไข่เช่นเดียวกับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์มีอาการเจ็บป่วยแล้ว โดยมีรายงานข่าวว่าพบนักเรียนจากโรงเรียนคนตาบอดภาคเหนือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จ.เชียงใหม่ จำนวนหนึ่งถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้ว
