xs
xsm
sm
md
lg

"สภาลูกจ้างฯ"ชี้ลูกจ้างอยู่รอดด้วยโอทีเป็นหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ประธานสภาลูกจ้างฯ เผย ลูกจ้างในปัจจุบันไม่สามารถอยู่ได้โดยอาศัยค่าจ้างขั้นต่ำอย่างเดียว ชี้ต้องอาศัยค่าล่วงเวลา เบี้ยขยันเป็นหลัก แจงค่าจ้างขั้นต่ำไม่ใช่ต้นทุนการผลิตแท้จริง ด้านสภาอุตฯ หวั่น กระทบส่งออก เหตุสู้ต้นทุนเพื่อนบ้านไม่ได้ ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ

วันนี้(1เม.ย.) กระทรวงแรงงานร่วมกับมูลนิธิอารมณ์พงศ์พงัน จัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ : แรงงานไทยดีจริงหรือ? ณ ห้องสมประสงค์ 202 ชั้น 2 อาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาการปรับค่าจ้างประจำปีต้องไม่น้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศ ระดับค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่ ที่ผ่านมามีการนำเรื่อง “คุณภาพการดำรงชีวิตของแรงงาน” มาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาด้วย แรงงานต้องมีความสุขในการทำงาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น อัตราค่าจ้างขึ้นต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครจากเดิม (ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำฉบับที่ 3 บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 ) อยู่ที่ 206 บาท ปัจจุบันตามประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำฉบับที่ 5 (บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2554 ) อยู่ที่ 215 บาท โดยใช้ฐานคำนวณจากปีที่แล้วมีภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงตัวเลขค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของคนงานเพื่อให้อยู่ตามอัตภาพควรอยู่ที่ 213 บาท เมื่อรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีจึงเป็นที่มาของตัวเลขล่าสุดของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ 215 บาท ซึ่งเรื่อง “ค่าจ้างขั้นต่ำ” ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับแรงงานแรกเข้าสู่การทำงาน หรือแรงงานไร้ฝีมือ แต่ในส่วนการพัฒนาแรงงานไทยสู่แรงงานมีฝีมือ ขณะนี้ได้มีการเตรียมการใช้อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานอาชีพจะเริ่มจาก 11 สาขาอาชีพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเป็นธรรมกับแรงงานที่มีฝีมือ สร้างแรงจูงใจให้แรงงานได้มีการพัฒนาฝีมือตนเองให้มีความรู้ความสามารถและมีค่าจ้างที่สูงขึ้น

นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “ค่าจ้าง” กับการดำรงชีพของ“ผู้ใช้แรงงาน”ยุคปัจจุบันมิได้ขึ้นอยู่กับ“ค่าจ้างขั้นต่ำ” เป็นหลัก แต่สามารถอยู่รอดได้โดยอาศัย “เงินโอทีหรือค่าล่วงเวลา” และในขณะที่ผู้ประกอบการมองว่า การปรับเพิ่ม “ค่าจ้างขั้นต่ำ” เป็นการเพิ่ม “ต้นทุนการผลิต” จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ “ค่าจ้างขั้นต่ำมิได้มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตที่แท้จริง” อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเรื่องที่ดี แต่ภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการในการควบคุมราคาสินค้าควบคู่กันไปด้วย

นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่ว่าจะเป็น ไม่มีม๊อบ..ค่าจ้างขั้นต่ำไม่ปรับ หรือขึ้นค่าจ้าง..ปรับลดค่าล่วงเวลา (OT) การดำรงอยู่ของลูกจ้างปัจจุบันไม่สามารถอยู่ได้โดยอาศัย ค่าจ้างขั้นต่ำเพียงอย่างเดียวแต่ต้องอาศัยค่าล่วงเวลา OT ค่าเบี้ยขยัน วันนี้..ประเทศไทยต้องก้าวข้ามเรื่อง “ค่าจ้างขั้นต่ำ” ไปสู่การกำหนดโครงสร้างค่าจ้างตามมาตรฐานวิชาชีพ ป อีก 4 ปี ประเทศไทยต้องก้าวสู่การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีตามกรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC.2015) และการพัฒนาแรงงานไทยให้มีทักษะฝีมือ ย่อมเป็นที่ต้องการของนายจ้าง / ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม มากกว่าการคำนึงถึงการจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ ท้ายสุดคือเพื่อทำให้เกิดค่าจ้างที่เป็นธรรมแก่ผู้ใช้แรงงาน

ด้านนายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยมีสัดส่วนเพื่อการส่งออกร้อยละ 70 และเพื่อการบริโภคภายในประเทศร้อยละ 30 ซึ่งต้องแข่งขันในตลาดการส่งออกกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์มีค่าแรงต่ำกว่าย่อมมีต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบกว่า และถ้ามีการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบสูงคือกลุ่ม SMEs และกลุ่มรับช่วงงานเพราะ “ค่าจ้างแรงงาน” อยู่ในสัดส่วนถึงร้อยละ 40 - 50 ของต้นทุนการผลิตรวม ดังนั้นหากมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกเพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคาสินค้าจะสูงขึ้นจะส่งผลให้การสั่งซื้อสินค้าลดลง แต่ขณะเดียวกัน

จากการคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ : GDP มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในแต่ละปี หากไม่มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำลูกจ้างก็อยู่ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้คำนึงถึงคือต้องมีการพัฒนาศักยภาพแรงงานเพื่อให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น

ขณะที่ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานมูลนิธิอารมณ์ พงศ์พงัน กล่าวว่าปัจจัยการผลิต 4 ด้าน คือ ที่ดิน วัตถุดิบ ทุน และแรงงาน “แรงงาน” ในที่นี่ไม่ได้หมายถึง “คน” แต่เป็น “การผลิตที่ได้จากคน” ซึ่งอาจประกอบด้วย กำลังแรง กำลังสมอง การที่คนหนึ่งคนจะก้าวสู่การเป็นผู้สร้าง”การผลิต” หรือก้าวสู่วัยทำงานอย่างน้อย 15 ปี ต้องมีการลงทุนไปเท่าไหร่ นี่คือ “ทุนมนุษย์” ดังนั้นหากมองว่าต้นทุนการผลิตต้องควรปรับเพิ่มกำไรปีละ 10% ทุนมนุษย์ก็ต้องมีการปรับเพิ่มกำไรหรือปรับเพิ่มค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 10% เช่นกัน ทั้งนี้ยังมีความเห็นว่า ค่าจ้างขั้นต่ำยังควรมีไว้สำหรับแรงงานแรกเข้าทำงานเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น