สธ.สั่งกรมสุขภาพจิตเปิดสายด่วน 1323 บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตตลอด 24 ชั่วโมง แนะวิธีคลายเครียดผู้ประสบภัย ให้หาเพื่อนปรับทุกข์ อย่าอยู่คนเดียว พร้อมสั่งการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันโรค ให้เฝ้าระวัง 6 โรคระบาดที่มาพร้อมกับน้ำท่วม
ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ว่า ในวันนี้ทีมสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ จ.สงขลา ลงปฏิบัติการให้การดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัย โดยมีเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ ครอบครัวผู้เสียชีวิต กลุ่มผู้ประสบภัย และผู้ป่วยจิตเวช โดยเมื่อวานนี้ ได้เยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตที่ อ.กงหรา และอ.ควนขนุน จ.พัทลุง ประเมินทางสุขภาพจิต 5 ราย ยังไม่พบปัญหาสุขภาพจิต ส่วนผลการออกหน่วยแพทย์ ณ ศูนย์พักพิงโรงเรียนตรณาราม ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประเมินทางสุขภาพจิต 18 ราย พบประชาชนมีความเครียด 5 ราย มีอาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ทีมสุขภาพจิตได้ให้คำปรึกษาและดูแลต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมขณะนี้อยู่ในวงกว้าง ได้สั่งการให้เปิดสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้บริการปรึกษาแก่ผู้ประสบภัยทั่วไป รวมทั้งผู้ป่วยจิตเวชที่ต้องกินยาต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาขาดยา
รมช.สธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งสำนักงานป้องกันโรคที่จังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช ทำการเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ 6 โรค ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ อหิวาตกโรค ตับอักเสบเอ โดยขอให้ผู้ประสบภัยกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ปรุงสุกด้วยความร้อนอย่างทั่วถึง ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและภายหลังจากเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม และใช้ช้อนกลางตักอาหาร ประการสำคัญให้ถ่ายอุจจาระลงส้วม หากไม่มีส้วมหรือส้วมใช้การไม่ได้ ขอให้ถ่ายลงในถุงดำ ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงให้แน่น และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ควรทิ้งลงน้ำ เนื่องจากอาจทำให้เชื้อแพร่โรคแพร่ระบาดได้ง่าย
ด้านนายแพทย์ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นใน 8 จังหวัดภาคใต้ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประสบภัยติดตามข่าวสารจากทางราชการ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม อย่าตื่นตระหนก และให้วางแผนค่อยๆแก้ไขปัญหาตามลำดับความรุนแรงก่อนหลัง อย่าแก้หลายเรื่องพร้อมกัน เพื่อลดความสับสน และใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง ขอให้มองอนาคต หากรู้สึกว่าตัวเองเครียด เช่นนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ฝันร้าย ขอให้หาเพื่อนคุยเพื่อปรับทุกข์ ซึ่งจะทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น ความเครียดจะไม่สะสม ไม่ควรอยู่คนเดียว หากอาการไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุข หรือโทร.ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง