“อิสสระ” เผย ชื่อกระทรวงไม่เปลี่ยน พร้อมเพิ่มกรมกิจการผู้สูงอายุ และเปลี่ยน 3 สำนักงานเป็นกรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างระบบราชการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ครั้งที่ 1/2554 ว่า ที่ประชุมได้เชิญรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ตัวแทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงบประมาณ กฤษฎีกา และผู้บริหาร พม.หารือถึงการปรับโครงสร้าง พม.ใหม่ กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบในหลักการการปรับโครงสร้างการบริหาร พม.ใหม่ เฉพาะประเด็นการเพิ่มกรมกิจการผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่า หลังจาก ครม.ได้เสนอให้ พม.กลับมาทบทวนประเด็นการยกฐานะ 3 สำนักงานเป็นกรม ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ เป็นกรมกิจการเด็กและเยาวชน สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ เป็นกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และเปลี่ยนชื่อกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นกรมประชาสงเคราะห์
ซึ่งได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างดังกล่าว เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ จัดระบบงานด้านนโยบาย วิชาการ และฝ่ายปฏิบัติตามกลุ่มเป้าหมายโดยตรง จากเดิมที่งานฝ่ายปฏิบัติขึ้นอยู่กับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบและจะนำเสนอตามขั้นตอน โดยต้องผ่าน ก.พ.ร.เพื่อนำเสนอครม.ต่อไปภายในไม่เกิน 30 วัน
นายอิสสระ กล่าวอีกว่า พม.มีกรมใหญ่ คือ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่จะนำงานวิจัยและงานวิชาการ จากสำนักงานต่างๆ มาปฏิบัติ แต่มีปัญหาคือ ไม่ค่อยได้นำมาปฏิบัติ เพราะทำอยู่หน่วยงานเดียว จึงเป็นภาระหนัก และเหมือนกับว่าคนคิดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้คิด ทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ จึงอยากให้สำนักงานต่างๆ ที่เป็นผู้คิดหรือทำงานวิจัย ปฏิบัติงานเอง ไม่เช่นนั้นก็จะมีการโยนกันไปโยนกันมา นี่คือ เหตุผลที่ยกสำนักงานต่างๆ เป็นกรม
ส่วนประเด็นการเปลี่ยนชื่อกระทรวง โดยตัดคำว่าความมั่นคงของมนุษย์ออกเหลือเพียงกระทรวงการพัฒนาสังคมนั้น ที่ประชุมโดยหลายฝ่ายเห็นว่าการระบุต่อท้ายถึงความมั่นคงของมนุษย์เป็นหลักประกัน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อีกทั้งองค์การสหประชาชาติ ยังเคยแสดงความเห็นว่าเป็นคำที่ดี และเป็นประเทศเดียวที่ใช้คำว่าความมั่นคงของมนุษย์ จึงเห็นควรให้ใช้ชื่อกระทรวงตามเดิม อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้าง พม.อาจจะไม่ทันบังคับใช้ในรัฐบาลชุดนี้ แต่เมื่อ ครม.ชุดนี้เห็นชอบในหลักการแล้วก็คงเป็นแนวทางให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการ